จีนมาเหนือ เตรียมเปิดโรงพยาบาลเสมือนจริงในปี 2025 นี้ หวังปฏิวัติวงการอุตสาหกรรมสุขภาพด้วย AI และระบบอัตโนมัติ
จีนกำลังเตรียมเปิดตัวโครงการโรงพยาบาลเสมือนจริงอัตโนมัติ (Agent Hospital) ซึ่งเป็นแนวคิดใหม่ที่สามารถปรับเปลี่ยนและเรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง โครงการนี้ได้รับการพัฒนาโดย สถาบันวิจัยอุตสาหกรรม AI (AIR) ของมหาวิทยาลัยชิงหัว มีเป้าหมายเพื่อปฏิวัติอุตสาหกรรมสุขภาพ โดยมีกำหนดเปิดตัวแก่สาธารณชนในไตรมาสแรกของปี 2025 นี้
“Agent Hospital” โรงพยาบาลเสมือนจริงแห่งแรกของโลก
โครงการนี้ได้รับการนำเสนอโดยศาสตราจารย์หยาง หลิว จากภาควิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยชิงหัว แนวคิด Agent Hospital จำลองกระบวนการดูแลสุขภาพในโรงพยาบาล ตั้งแต่การวินิจฉัยโรค การรักษา จนถึงการติดตามผล ซึ่งทั้งหมดขับเคลื่อนด้วยโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (Large Language Models หรือ LLM) เช่นเดียวกับโมเดล AI ล่าสุดที่อยู่เบื้องหลัง ChatGPT
ในระบบนี้ “ตัวละครจำลองในโลกเสมือน” เช่น แพทย์ พยาบาล และผู้ป่วย ถูกออกแบบและพัฒนาขึ้นด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อทำหน้าที่โต้ตอบและจำลองสถานการณ์ทางการแพทย์ได้เสมือนจริงที่สุด ตัวละครเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเลียนแบบพฤติกรรม การตัดสินใจ และการสื่อสารของบุคลากรทางการแพทย์และผู้ป่วยในสถานการณ์จริง ทำให้ระบบสามารถนำไปใช้ในสถานการณ์ที่หลากหลายและท้าทายได้
แนวคิดและการพัฒนานี้ได้รับการเผยแพร่ผ่าน arXiv ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มวิจัยออนไลน์ที่ได้รับความนิยมในวงการวิชาการด้วย โดยเน้นย้ำถึงความก้าวหน้าในการนำเทคโนโลยี AI มาสนับสนุนวงการแพทย์ในรูปแบบใหม่ที่ยังไม่เคยมีมาก่อน
“MedAgent-Zero” AI ที่พัฒนาตัวเองได้
MedAgent-Zero คือเทคโนโลยีแกนกลางที่ทำให้ระบบดูแลสุขภาพเสมือนจริงนี้สามารถทำงานได้อย่างชาญฉลาด จุดเด่นของมันอยู่ที่ความสามารถในการ เรียนรู้และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ผ่านการโต้ตอบกับผู้ป่วย ศึกษาข้อมูลทางการแพทย์ และสะสมประสบการณ์จากทั้งกรณีที่ประสบความสำเร็จและล้มเหลว ความยืดหยุ่นนี้ทำให้ AI มีความแม่นยำและเชื่อถือได้ยิ่งขึ้นในสถานการณ์ทางคลินิกที่ซับซ้อน
จากการวิจัยพบว่า AI ในระบบนี้สามารถวินิจฉัยโรคได้อย่างแม่นยำถึง 88% ให้การรักษาที่ถูกต้องถึง 95.6% และติดตามผลการรักษาได้อย่างแม่นยำถึง 77.6%
นอกจากนี้ AI ยังแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการตอบคำถามที่ซับซ้อนใน ชุดข้อมูล MedQA ซึ่งใช้เป็นส่วนหนึ่งของการสอบใบอนุญาตแพทย์ในสหรัฐอเมริกา ด้วยความแม่นยำถึง 93% ซึ่งนับเป็นตัวชี้วัดสำคัญที่แสดงถึงศักยภาพของ AI ในการช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์ในสถานการณ์จริง
การประยุกต์ใช้ Agent Hospital ในวงการแพทย์ ก้าวใหม่ของเทคโนโลยีเพื่อสุขภาพ
ปัจจุบัน Agent Hospital ได้พัฒนาทีมแพทย์ AI จำนวน 42 คน ซึ่งครอบคลุมการดูแลใน 21 แผนกเฉพาะทาง เช่น แผนกฉุกเฉิน แผนกทางเดินหายใจ และแผนกหัวใจ แต่ความสำเร็จนี้ยังเป็นเพียงจุดเริ่มต้น ทีมวิจัยกำลังเดินหน้าขยายศักยภาพของระบบเพื่อให้ตอบโจทย์วงการแพทย์ได้อย่างครอบคลุมและล้ำสมัยยิ่งขึ้น
สำหรับเป้าหมายในอนาคตที่น่าตื่นเต้นคือการเพิ่มจำนวนแผนกทางการแพทย์ โดยทีมวิจัยวางแผนที่จะขยายขอบเขตการดูแลครอบคลุมไปยังแผนกอื่นๆ เช่น ศัลยกรรมประสาท และแผนกอายุรศาสตร์ เพื่อรองรับผู้ป่วยในทุกด้าน ขณะเดียวกันก็พัฒนาโมเดล LLM ให้ล้ำหน้าขึ้น โดยระบบ AI จะถูกปรับปรุงให้มีความสามารถในการวิเคราะห์และตัดสินใจที่ซับซ้อนมากขึ้น เพื่อช่วยแพทย์และพยาบาลในการดูแลและรักษาผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงพัฒนาฟีเจอร์ใหม่เพื่อการดูแลสุขภาพที่แม่นยำ และเพิ่มเติมการวิเคราะห์การกระจายตัวของโรคตามช่วงเวลา ซึ่งจะช่วยระบุแนวโน้มการเกิดโรคในอนาคต และระบบการจัดเก็บประวัติผู้ป่วยแบบเสมือนที่ช่วยให้ข้อมูลทุกอย่างพร้อมใช้งานและเชื่อมโยงได้ทันที
ทั้งนี้ การพัฒนา Agent Hospital ไม่ได้เป็นเพียงการนำ AI มาสนับสนุนงานทางการแพทย์ แต่ยังเป็นการสร้างเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดูแลผู้ป่วยอย่างรอบด้าน โดยที่ทีมแพทย์และระบบ AI ทำงานร่วมกันอย่างสอดประสานกันเป็นหนึ่งเดียว ชัดเจนว่าอนาคตของวงการแพทย์กำลังจะเปลี่ยนไป และ Agent Hospital คือหนึ่งในตัวแปรสำคัญที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงอันยิ่งใหญ่และน่าตื่นเต้นนี้
AI เปลี่ยนโฉมวงการสุขภาพในจีน ความก้าวหน้าที่โลกต้องจับตามอง
นอกจาก Agent Hospital ยังมีอีกหลายโครงการที่ยกระดับศักยภาพของ AI ในระบบสุขภาพของจีน ตัวอย่างที่โดดเด่นคือ MedGo โครงการจากมหาวิทยาลัยทงจี้ ที่ใช้ข้อมูลจากตำราแพทย์กว่า 6,000 เล่มในการฝึก AI ให้มีความแม่นยำในการวินิจฉัยและให้คำแนะนำทางการแพทย์ อีกหนึ่งโครงการสำคัญคือ CARES Copilot ซึ่งพัฒนาขึ้นจาก Llama 2 LLM ของ Meta แชทบอทนี้ออกแบบมาเพื่อช่วยแพทย์โดยเฉพาะ ทั้งในด้านการวิเคราะห์ข้อมูลผู้ป่วยและการวางแผนการรักษา
โครงการเหล่านี้ไม่ได้หยุดอยู่เพียงการวิจัยในห้องทดลอง แต่ถูกนำไปใช้งานจริงในโรงพยาบาล เช่น Shanghai East Hospital ซึ่งเป็นตัวอย่างของการผสานเทคโนโลยี AI เข้ากับการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์อย่างมีประสิทธิภาพ
สิ่งที่น่าสนใจคือ ความสามารถของ AI ในการเรียนรู้และปรับตัวอย่างรวดเร็ว ไม่เพียงแต่ลดข้อจำกัดของระบบสุขภาพแบบดั้งเดิม แต่ยังช่วยให้บริการด้านสุขภาพเข้าถึงผู้คนได้มากขึ้น ไม่ว่าจะในพื้นที่ห่างไกลหรือในกลุ่มผู้ป่วยที่ต้องการการดูแลเฉพาะทาง
ความก้าวหน้าดังกล่าวไม่เพียงสะท้อนถึงศักยภาพทางเทคโนโลยีของจีนเท่านั้น แต่ยังชี้ให้เห็นถึงความเป็นไปได้ที่ AI จะกลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการพลิกโฉมระบบสุขภาพทั่วโลก อนาคตที่เราจะได้เห็นโรงพยาบาล AI ที่สามารถวินิจฉัยโรคได้อย่างแม่นยำและให้คำแนะนำที่ดีที่สุดสำหรับผู้ป่วย อาจอยู่ใกล้กว่าที่เราคิด และจีนก็กำลังเป็นผู้นำในเส้นทางที่สุดแสนจะท้าทายนี้อย่างแท้จริง
แหล่งข้อมูล
https://www.salika.co/2025/01/17/china-virtual-hospital-2025-ai-healthcare/