“เซินเจิ้น” ผุด “เสากั้นรถอัจฉริยะ” ปฏิวัติพื้นที่สาธารณะด้วยเทคโนโลยีล้ำยุค

Loading

เมืองเซินเจิ้น มณฑลกวางตุ้ง ทางตอนใต้ของจีน ศูนย์กลางเทคโนโลยีระดับโลก ได้ก้าวข้ามขอบเขตของคำว่า “สมาร์ท ซิตี้” ไปอีกขั้น ด้วยการเปลี่ยน “เสากั้นรถ” ที่เคยเป็นเพียงโครงสร้างธรรมดาที่ตั้งเรียงรายริมถนน ให้กลายเป็นนวัตกรรมสาธารณะที่ทั้งชาร์จโทรศัพท์มือถือและฉายหนังกลางแจ้งได้ในตัวเดียวกัน

ในขณะที่เมืองส่วนใหญ่ในโลกยังคงติดกับภาพจำของโครงสร้างพื้นฐานเมืองแบบเดิมๆ เซินเจิ้นกลับเดินเกมเหนือชั้นด้วยแนวคิดที่ไม่ธรรมดา เปลี่ยนหลักหินริมทางให้กลายเป็นพื้นที่ที่ยกระดับคุณภาพชีวิตของพลเมือง

Bollard หมายถึง เสากั้นรถ หรือ แท่งกันชน ที่ใช้แบ่งเขตทางเดินคนกับถนนทำจากวัสดุที่แข็งแรงพอจะกันรถไม่ให้ขับเข้ามาในพื้นที่คนเดิน มักมีรูปร่างกลม หนักแน่น และเรียงตัวกันเป็น นิยมใช้ในงาน Urban Design เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับคนเดินถนน และเป็นองค์ประกอบตกแต่งภูมิทัศน์

แต่ในกรณีของเซินเจิ้น มันถูกพัฒนาให้กลายเป็นแท่นอัจฉริยะ ติดตั้งเทคโนโลยี เช่น พอร์ตชาร์จโทรศัพท์มือถือ (USB / Wireless Charging), หน้าจอฉายหนังกลางแจ้งขนาดเล็ก, ระบบไฟส่องสว่างอัตโนมัติ และระบบอินเทอร์แอคทีฟสำหรับกิจกรรมสาธารณะ สร้างสรรค์ประสบการณ์ร่วมของชุมชน เติมชีวิตชีวาให้กับพื้นที่สาธารณะ และเสริมสร้างความรู้สึกปลอดภัยสำหรับผู้ที่เดินทางยามค่ำคืน

ตีโจทย์ Netizen แตกยิบ ด้วยอินไซต์ที่คนเมืองเรียกร้อง

เซินเจิ้นไม่ได้ออกแบบนวัตกรรมเหล่านี้เพียงเพื่อ “โชว์ของ” แต่เป็นการตอบโจทย์ของ Netizen (ชาวเน็ต + ชาวเมือง) ที่มีความต้องการเฉพาะเจาะจงและไม่ยอมประนีประนอมกับประสบการณ์ใช้งานอีกต่อไป

คนรุ่นใหม่ในเมืองใหญ่ต้องการพื้นที่ที่ “มีประโยชน์จริง ใช้งานง่าย ดูดี และโพสต์ลงโซเชียลแล้วได้ยอดไลก์” การติดตั้งที่ชาร์จแบตที่กลมกลืนกับภูมิทัศน์เมือง พร้อมการฉายหนังกลางแจ้งผ่านหน้าจอที่ติดอยู่บนแท่นหิน จึงเป็น นวัตกรรมที่เข้าใจพฤติกรรมผู้คนอย่างทะลุทะลวง

นี่คือเมืองที่ไม่ถามว่า “เราจะสร้างอะไรให้เท่” แต่ถามว่า “เราจะเติมชีวิตให้ผู้คนได้อย่างไรในทุกตารางเมตรของเมือง”

เทคโนโลยีที่ “กลืนไปกับเมือง” อย่างแนบเนียน

นี่คือหนึ่งในตัวอย่างของการออกแบบเมืองแห่งอนาคต ที่ “เทคโนโลยีไม่ได้เป็นแค่เครื่องมือ” แต่กลายเป็น “เนื้อแท้ของเมือง” ไม่ต่างจากโครงการระดับเมกะอย่างสำนักงานใหญ่ของ Tencent ซึ่งตั้งอยู่ในเขตสมาร์ทซิตี้ที่มีการบูรณาการเทคโนโลยีเข้ากับทุกอณูของพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นเซ็นเซอร์อัจฉริยะ ระบบจราจรที่เชื่อมโยงกับ AI หรือพื้นที่สีเขียวที่ตอบสนองต่อสภาพแวดล้อมแบบเรียลไทม์

แท่นกันชนชาร์จไฟและฉายหนังกลางถนน จึงไม่ใช่เรื่องเหลือเชื่อในบริบทของเซินเจิ้น แต่คือบทพิสูจน์ว่าเมืองไม่ได้ต้องการตึกสูงเสียดฟ้าเสมอไป แต่อาจเริ่มต้นจากเสาหยุดรถข้างถนนที่ออกแบบอย่างเข้าใจมนุษย์

เมืองที่ไม่หลับใหล เพราะความคิดสร้างสรรค์ไม่เคยหยุดนิ่ง

สิ่งที่ทำให้เซินเจิ้นแตกต่างจากเมืองอื่นๆ ไม่ใช่แค่ฮาร์ดแวร์หรือเม็ดเงินลงทุนมหาศาล แต่คือ วัฒนธรรมของการกล้าทดลอง การให้โอกาสกับไอเดียเล็กๆ ที่กลายเป็นฟันเฟืองของเมืองระดับโลก

เมืองนี้เคยเป็นหมู่บ้านชาวประมงเมื่อ 40 ปีก่อน แต่วันนี้ เซินเจิ้นกลายเป็นบ้านของเหล่าสตาร์ทอัพ ผู้ประกอบการ และนักพัฒนาเมืองหัวก้าวหน้า ที่มองเห็นของริมทาง เป็นโอกาสในการเปลี่ยนเมืองให้ฉลาดขึ้น ไม่ใช่ด้วยเทคโนโลยีที่ซับซ้อน แต่ด้วยการออกแบบที่เข้าใจชีวิตจริงของผู้คนในเมือง

จากเสากั้นรถสู่หลักคิด…หากเมืองไทยอยากก้าวสู่การเป็นสมาร์ท ซิตี้ที่แท้จริง บางทีเราควรเริ่มจาก “สิ่งเล็กๆ” ที่ยกระดับคุณภาพชีวิตของพลเมืองอย่างแท้จริง มากกว่าจะทุ่มทุนในโครงสร้างขนาดใหญ่ที่ไม่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้คน

แหล่งข้อมูล

https://www.salika.co/2025/05/29/smart-bollard-of-shenzhen-public-space-revolution/


Smart City Thailand : 02 054 7755
Contact us : thunya.b@gmail.com | thunya@securitysystems.in.th

© smartcitythailand 11 โกสุมรวมใจ ดอนเมือง กรุงเทพมหานคร 10210