เรียกได้ว่าเป็นอภิมหาโปรเจ็กต์ที่หลายคนรอคอย “ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์” โฉมใหม่ กำลังจะเปิดใช้งานในเดือนกันยายน 2565 นี้ หลังจากปิดปรับปรุงมาตั้งแต่ปี 2562 ปัจจุบันก่อสร้างคืบหน้าไปแล้วกว่า 60% ตั้งเป้าสู่การเป็นศูนย์ประชุมที่ดีที่สุดในประเทศไทย

บรรยากาศการจัดงานนิทรรศการ งานประชุมต่างๆ เงียบเหงาไปนานพอสมควร นับตั้งแต่ Covid-19 ระบาด แต่สถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวไทย ในปี 2565 เริ่มส่งสัญญาณดีขึ้น โครงการอสังหาฯ ใหญ่ที่กำลังอยู่ในช่วงของการก่อสร้างเริ่มตัว พร้อมเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จทันภายในปีหน้า

ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ที่หลายคนคุ้นเคยกันดี กำลังจะกลับมาในปีหน้าเช่นกัน ความคืบหน้าล่าสุดจาก บมจ.เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) (FPT) ผู้ร่วมพัฒนาและบริหารงานก่อสร้างร่วมกับ บริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด (NCC)

เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการก่อสร้าง เกินกว่า 60% แล้ว โดยขนาดพื้นที่ของศูนย์ประชุมจะใหญ่กว่าเดิมถึง 5 เท่า พื้นที่รวมกว่า 300,000 ตารางเมตร ประกอบไปด้วยส่วนของอาคาร 4 ชั้น มีพื้นที่จัดงานนิทรรศการ (Hall) รวม 50,000 ตารางเมตร ห้องประชุม 50 ห้อง พื้นที่รีเทล และพื้นที่จอดรถ 3,000 คัน จากเดิมที่รองรับได้เพียง 600 คันเท่านั้น

ถ้ายังนึกไม่ออกว่าขนาดพื้นที่ศูนย์ประชุมสิริกิติ์ใหม่แห่งนี้ จะใหญ่แค่ไหน ลองเทียบกับสนามฟุตบอล รวมๆ แล้วก็ประมาณ 50 สนามเลยทีเดียว สามารถรองรับผู้มาใช้บริการได้ถึง 100,000 คนต่อวัน

นอกจากนี้จะมีการสร้างทางเดินเชื่อมไปยังสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน ให้สะดวกต่อการสัญจรมากยิ่งขึ้น พร้อมเชื่อมไปสวนเบญจกิติที่อยู่ใกล้เคียงได้ ปัจจุบันสวนเบญฯ เฟสใหม่ก่อสร้างเกือบแล้วเสร็จแล้วเช่นกัน น่าจะเปิดให้บริการได้เต็มพื้นที่ภายในปีหน้า พร้อมขยายเส้นทางเชื่อมไปยังสวนลุมพินีในอนาคต

สำหรับเป้าหมายของการพัฒนาศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์  คือ The Ultimate Inspiring World Class Event Platform for All สถานที่จัดกิจกรรมที่หลากหลาย มุ่งสู่การเป็นศูนย์ประชุมที่ดีที่สุดในประเทศไทย ได้มาตรฐานระดับโลก ด้วยจุดเด่นที่น่าสนใจ 5 อย่างด้วยกัน

– ทำเลที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง เดินทางได้อย่างสะดวกสบาย เชื่อมถนนหลายสายและมีตัวเลือกในการเดินทางเยอะ มีห้างและอาคารสำนักงานอยู่รายล้อม

– มีระบบรักษาความปลอดภัยสูง ได้มาตรฐานระดับสากล

– ติดตั้งอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงสุดในไทย รองรับ 6G ในอนาคต พร้อมจัดนิทรรศการหรืองานอีเวนต์ รูปแบบออนไลน์ได้ไม่สะดุด พร้อมใช้เทคโนโลยีต่างๆ อำนวยความสะดวก ไม่ว่าจะเป็นระบบบริหารอาคารอัจฉริยะ ระบบเข้าพื้นที่แบบไร้สัมผัส (Touchless Access) และกล้องวงจรปิดที่มีฟังก์ชันการทำงานที่ทันสมัย

– พื้นที่มีความยืดหยุ่น สามารถจัดงานได้ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นงานประชุม นิทรรศการหรืออีเวนต์ ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ตอบโจทย์การใช้งานครบครัน

– ออกแบบอาคารอย่างยั่งยืน ตัวอาคารออกแบบมาเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อนุรักษ์พลังงาน ผ่านมาตรฐานอาคารเขียว และยังอยู่ใกล้พื้นที่สีเขียว 300 ไร่ อย่างสวนป่าเบญจกิติอีกด้วย

ปัจจุบันมีลูกค้าจองจัดงานที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ใหม่ ยาวไปถึงสิ้นปี 2565 แล้ว ซึ่งมีงานใหญ่ระดับนานาชาติด้วย สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มสถานการณ์ที่ดีขึ้น รวมถึงความเชื่อมั่นที่ผู้ประกอบการจะกลับมาจัดงานประชุมหรืออีเวนต์ในลักษณะพบปะเห็นหน้ากันอีกครั้งในปีหน้า

แหล่งข้อมูล

https://www.facebook.com/109785344593658/posts/226256579613200/