“Gen Z ผงะ! ทุ่มเวลาเรียน 4 ปี สูญเปล่า เมื่อ AI แซงหน้าปริญญา นายจ้างยุคใหม่เน้นทักษะใช้แชตบอตมากกว่าใบจบ เด็กจบใหม่ต้องเรียนเสริม
“เรียนแทบตาย สุดท้ายแพ้ AI!” เสียงบ่นของคนรุ่นใหม่ที่เรียนจบมาหมาด ๆ กำลังสะท้อนให้เห็นปรากฏการณ์ใหม่ในตลาดแรงงานยุคปัจจุบัน เมื่อ Gen Z เกือบครึ่งหนึ่งบอกว่า… ปริญญาที่ได้มานั้น “แทบไร้ค่า” เมื่อเทียบกับการบุกเข้ามาของปัญญาประดิษฐ์
จากรายงานล่าสุดของ Indeed ซึ่งสำรวจกลุ่มคนอเมริกันกว่า 772 คน ที่จบการศึกษาระดับอนุปริญญาขึ้นไป พบว่า 49% ของ Gen Z มองว่าการเรียนมหาวิทยาลัยเป็น “การลงทุนที่ไม่คุ้มค่า” เพราะทุกวันนี้ บางบริษัทกลับให้ความสำคัญกับความสามารถในการใช้ AI มากกว่ากระดาษแผ่นเดียวที่เรียกว่า “ปริญญา”
ในขณะที่คนรุ่นพี่อย่างมิลเลนเนียลมีความรู้สึกแบบเดียวกันเพียงแค่หนึ่งในสาม และเบบี้บูมเมอร์มีเพียงหนึ่งในห้าคนเท่านั้นที่รู้สึกเสียใจกับการเรียน
สมัยนี้เน้นคนที่ใช้เครื่องมือเป็น
“ลินซีย์ ฟาแก้น (Linsey Fagan)” ที่ปรึกษาของ Indeed ให้ข้อมูลว่า “ทุกตำแหน่งงานบนกระดานประกาศรับสมัครของเรา กำลังจะได้รับผลกระทบจาก Generative AI ไม่มากก็น้อย”
ในเมื่อ AI เข้ามาแทนที่หลายหน้าที่ได้อย่างรวดเร็ว บรรดานายจ้างจึงหันมามองหา “คนที่รู้จักใช้เครื่องมือใหม่” แทนการจ้องหาคนที่มีแค่ใบจบ
“องค์กรไหนอยากอยู่รอดในยุค AI พนักงานทุกคนต้องเข้าใจว่า AI คืออะไร และบริษัทใช้มันอย่างไร” พร้อมส่งสารถึงผู้นำว่า ต้องประเมินทีมงาน ฟังเสียงของพนักงาน และสนับสนุนการพัฒนาทักษะใหม่ ๆ ให้ทันเกม
เรียน AI เสริมคือทางรอด
ท่ามกลางแรงกดดันจากตลาดงานที่เปลี่ยนไป หลายบริษัทจึงเริ่มหันมาเปิดหลักสูตร “อัปสกิล” ให้กับพนักงานของตัวเอง ไม่เว้นแม้แต่ยักษ์ใหญ่อย่าง Microsoft และ Google ที่พัฒนาเครื่องมือและคอร์สเรียน AI ฟรี ๆ ให้ใครก็เรียนได้
แพลตฟอร์ม O’Reilly เองก็เผยว่า จำนวนคนที่ลงเรียนคอร์ส Machine Learning, Prompt Engineering และ AI Tools เพิ่มขึ้นกว่า 4 เท่าภายในปีเดียว แสดงให้เห็นว่าคนเริ่มรู้ตัวว่า “ต้องเรียนใหม่ ก่อนจะโดนทิ้งไว้ข้างหลัง”
กระแสนี้ เป็นการส่งสัญญาณเตือนว่า “การศึกษารูปแบบเดิม” กำลังสั่นคลอน และหาก Gen Z จะอยู่รอดในโลกที่ AI เข้ามามีบทบาทแทบทุกตารางนิ้ว พวกเขาก็ต้องกลายเป็นคนที่ “ทำงานกับ AI” ให้ได้ มากกว่าจะกลายเป็นคนที่ “โดน AI แย่งงาน”
แหล่งข้อมูล
