Mobileye บริษัทพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับรถไร้คนขับของ Intel ยื่นเอกสารต่อ ก.ล.ต. สหรัฐฯ เพื่อเตรียมนำบริษัทเข้าตลาด และเสนอขายหุ้นแก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) ซึ่งสอดคล้องกับเมื่อช่วงปลายปีที่แล้วที่ Intel เคยประกาศถึงความตั้งใจในการเสนอขายหุ้น IPO ของ Mobileye เพื่อขยายธุรกิจในอุตสาหกรรมยานยนต์ไร้คนขับ ที่กำลังเติบโตไปทั่วโลก

โดยที่ผ่านมา ค่ายผู้ผลิตรถยนต์ต่างพากันลงทุน และพัฒนาเทคโนโลยีไร้คนขับเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น Ford, General Motors, Toyota, Tesla เป็นต้น

อย่างไรก็ดี แม้ว่า Mobileye จะเข้าสู่ตลาดหุ้นแล้ว แต่ Intel ก็จะยังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ต่อไป

สำหรับการยื่นเอกสารให้ ก.ล.ต. สหรัฐฯ ทาง Intel ยังไม่ได้กำหนดราคา และจำนวนหุ้น IPO ที่เสนอขาย แต่ก็คาดว่า IPO ในครั้งนี้ อาจเป็นหนึ่งใน IPO ที่ใหญ่ที่สุดในตลาดหุ้นปีนี้

ซึ่งทาง Pat Gelsinger CEO ของ Intel ได้กล่าวไว้เมื่อปลายปีที่แล้วว่า เงินส่วนใหญ่ที่ได้จากการขายหุ้นบางส่วน จะนำไปใช้ในการสร้างโรงงานผลิตชิปนั่นเอง

ขณะที่สำนักข่าว Reuters อ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้อง ได้ประเมินว่า การเสนอขายหุ้น IPO ในครั้งนี้ อาจทำให้ Mobileye มีมูลค่าบริษัทกว่า 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ​ (ราว 1.7 ล้านล้านบาท)

สำหรับ Mobileye เป็นบริษัทที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1999 และ Intel ได้เข้าซื้อกิจการในปี 2017 ด้วยมูลค่า 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 497,000 ล้านบาท) ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้เติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ไร้คนขับ จะเป็นอุตสาหกรรมที่เพิ่งมีการใช้งานอย่างจริง ๆ จัง ๆ เมื่อไม่นานมานี้ก็ตาม

โดยเทคโนโลยีไร้คนขับของ Mobileye จะใช้เพียงระบบกล้องที่สามารถตรวจจับวัตถุได้ มาพร้อมกับระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ และระบบที่ช่วยในการเปลี่ยนเลน แต่ทาง Mobileye ก็มีแผนที่จะพัฒนาและสร้างเซ็นเซอร์ Lidar ที่ช่วยในการตรวจจับวัตถุเป็นของตัวเองด้วย

นอกจากนี้ Mobileye ก็ระบุว่า บริษัทมีลูกค้าที่เป็นค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่หลายราย เช่น BMW, Audi, Volkswagen, Nissan และ Honda เรียกได้ว่า Mobileye เป็นอีกหนึ่งโอกาสในการทำธุรกิจที่ดีสำหรับ Intel ที่ ณ ตอนนี้ กำลังเผชิญกับการแข่งขันสูงในกลุ่มผู้ผลิตชิป ที่มีทั้ง Nvidia และ Qualcomm เป็นคู่แข่ง

แหล่งข้อมูล

https://www.facebook.com/1387231808035873/posts/4853665798059106/