อุตสาหกรรมรถยนต์กำลังเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่ แทบทุกค่ายมุ่งเป้าไปที่ ‘ไฟฟ้า’ แต่มันจะมีอยู่ค่ายนึงที่ไม่ว่าจะอย่างไร ก็ออกมาบอกเรื่อยๆ ว่า ขอให้ค่อยเป็นค่อยไป.. เพราะก่อนไฟฟ้าเต็มตัว เราก็ยังมีไฮบริดอยู่นะ
Akio Toyoda ประธานบริษัทของ Toyota ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวในญี่ปุ่นบอกว่า การเปลี่ยนผ่านไปสู่รถยนต์ไฟฟ้าเต็มตัว (EV only) จะทำให้เกิดการตกงานจำนวนมาก ทั้งคนที่ทำงานในอุตสาหกรรมยานยนต์ และทั้งคนที่เป็นผู้ผลิตชิ้นส่วน
“ในญี่ปุ่น มีคนที่อยู่ในอุตสาหกรรมยานยนต์ประมาณ 5.5 ล้านคน ซึ่งแรงงานจำนวนมากอยู่ในอุตสาหกรรมนี้มาอย่างยาวนาน” Toyoda บอกพร้อมเสริมว่า “เพราะฉะนั้น ถ้าทางเลือกเดียวที่อุตสาหกรรมนี้กำลังจะไปคือไฟฟ้า มันก็ชัดเจนว่า จะมีคนจำนวนมหาศาลที่ตกงานอย่างแน่นอน”
จากข้อมูลของไทยเอง ก็มีการประเมินแล้วว่า หากอุตสาหกรรมยานยนต์สันดาปล่มสลายและ/หรือปรับตัวไม่ทัน จะกระทบการจ้างงานในอุตสาหกรรมนี้ที่มีแรงงานอยู่กว่า 6-8 แสนคน (อ่านเพิ่มได้ที่ วิจัย KKP Research: การเข้ามาของ EV สัญชาติจีน คือวิกฤตยานยนต์ไทย และ อุตสาหกรรมรถไทยไปต่อไม่ไหวเมื่อเจอ EV: เทคโนโลยีไม่ถึง ค่ายญี่ปุ่นไม่เน้น นำเข้าจีนถูกกว่า)
ทำไม Toyota ถึงเชื่อมั่นอะไรแบบนี้
อันที่จริง การเปลี่ยนผ่านที่ Toyota เชื่อมั่น เรียกว่าแผน Multi-Pathway ซึ่งหมายถึง การจะเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานสะอาดที่เป้าหมายร่วมกันของทั้งโลก เราไม่จำเป็นต้องไปแค่ไฟฟ้าเท่านั้น แต่สามารถทำได้หลายทางร่วมกัน
Toyota เชื่อมั่นว่า การจะไปให้ถึง zero-carbon emissions หรือลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนได้นั้น สามารถทำได้ทั้งรถยนต์ไฟฟ้า (EV) รถยนต์ไฮบริด และรถยนต์ไฮโดรเจน
หรือพูดอีกแบบก็คือ วิธีคิดของ Toyota มองว่า ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเลือกทางใดทางหนึ่ง เพราะถ้าเปลี่ยนเร็วไป หรือมีทางเลือกแค่ทางเดียวคือแผน EV-only ในท้ายที่สุด ก็จะกลายเป็นการจำกัดทางเลือก และทำให้คนตกงานมหาศาล
อย่างไรก็ตาม ช่วงต้นปี 2024 มานี้เอง Toyota ก็เคยออกมาบอกว่า ถึงที่สุดแล้ว รถยนต์ไฟฟ้าจะครองส่วนแบ่งในตลาดรถยนต์โลกได้แค่ 30% เท่านั้น ส่วนที่เหลือของตลาดจะเป็นรถยนต์ไฮบริดและรถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงชนิดอื่นๆ
ก็ไม่รู้ว่า อนาคตของอุตสาหกรรมนี้จะเป็นไปตามที่ Toyota วาดฝันไว้หรือเปล่า.. ต้องติดตามกันต่อไป
แหล่งข้อมูล