ตลาดการชาร์จรถยนต์พลังงานไฟฟ้าทั่วโลกมีแนวโน้มว่า จะมีมูลค่าทะลุ 1.4 แสนล้านดอลลาร์ หรือราว 4.1 ล้านล้านบาท ภายในปี 2573 แล้วถ้าคุณเป็นผู้ประกอบธุรกิจอยู่ในอุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมพลังงาน จะไม่อยากกระโดดเข้ามาชิงเค้กก้อนโตในอุตสาหกรรมแห่งอนาคตเชียวหรือ

เทคโนโลยีไฟฟ้า ร่วมทางกับเทคโนโลยีพลังงาน

อุตสาหกรรมยานยนต์ส่วนใหญ่กำลังเปลี่ยนผ่านจากการผลิตรถที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานฟอสซิล (น้ำมันเชื้อเพลิง) ไปสู่การผลิตยานยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle) เพื่อลดการปล่อยคาร์บอนออกสู่ชั้นบรรยากาศ ซึ่งในปี 2020 คงเห็นตัวเลขกันมาบ้าง ว่ายานยนต์ไฟฟ้าเป็นที่ต้องการของตลาดมาก โดยเฉพาะแบรนด์ Tesla ที่ชิงส่วนแบ่งตลาดได้มากที่สุดในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ทุกประเภท

สำหรับ Tesla นั้นมีการวางระบบไว้เพียบพร้อม แต่ถ้าใครที่ไม่พร้อมก็เปิดดีลทำงานร่วมกันแบบ collaboration เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้แก่กันได้ เช่นที่มีข่าวว่า AFC Energy ผู้นำด้านเทคโนโลยีการผลิตพลังงานไฮโดรเจน (H-Power) และเทคโนโลยีเซลล์เชื้อเพลิงอัลคาไลน์ (Alkaline Fuel Cell Technology) จากสหราชอาณาจักร ประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ ABB แบรนด์ระดับโลกด้านเทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้าและระบบดิจิทัล เพื่อพัฒนา โซลูชันการชาร์จรถยนต์พลังงานไฟฟ้ากำลังสูงแห่งอนาคต

Frank Muehlon หัวหน้าฝ่าย E-mobility Infrastructure Solutions ของ ABB กล่าวถึงบริษัท ในฐานะที่เป็นผู้นำด้านโซลูชันการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า (e-mobility) ว่า

“AFC Energy มีความพร้อมด้านเทคโนโลยีเซลล์เชื้อเพลิงอัลคาไลน์คุ้มราคา ดังนั้น การร่วมมือกับ AFC Energy ในครั้งนี้ จะช่วยให้เราก้าวข้ามขีดจำกัดด้าน e-mobility ซึ่งเรามองว่าเป็นการจับคู่ที่ลงตัว”

ความร่วมมือนี้จะเน้นไปที่ การส่งมอบระบบชาร์จรถยนต์พลังงานไฟฟ้ากำลังสูงแบบบูรณาการ ในตลาดหลักของ ABB ซึ่งรวมถึงตลาดรถยนต์ส่วนตัวและโลจิสติกส์ ผู้ให้บริการสถานีชาร์จไฟ และระบบขนส่งในเมือง

ที่น่าสนใจคือ ระบบชาร์จไฟดังกล่าวยังสามารถนำไปใช้ขับเคลื่อนยานพาหนะทางน้ำและอากาศยานบิน-จอดในแนวดิ่ง (VTOL) ได้ เนื่องจากอุตสาหกรรมการเดินเรือและการบินหันมาใช้พลังงานไฟฟ้ามากขึ้น

การชาร์จพลังงานไฟฟ้ากับแผนการตลาด

แน่นอนว่าดีลระหว่างสองเอกชนรายใหญ่ย่อมตั้งเป้าที่จะบุกตลาดโลก แต่ก่อนที่จะไปลุยตลาดโลกได้นั้น ทั้งคู่จะร่วมสนับสนุนการส่งมอบ โครงสร้างพื้นฐานรองรับการชาร์จทั่วโลก และจะนำเสนอ โซลูชันใหม่เพื่อจัดหาแหล่งจ่ายไฟที่ปลอดภัย มีประสิทธิภาพ ยืดหยุ่น เชื่อถือได้ และปราศจากมลพิษ เอาไว้รองรับ

ระบบชาร์จรถยนต์พลังงานไฟฟ้ากำลังสูงแบบบูรณาการที่ ABB ร่วมกับ AFC Energy พัฒนาขึ้น จะพร้อมใช้งานก่อนในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 ที่สหราชอาณาจักร ยุโรป และสหรัฐอเมริกา

ABB เชื่อว่าการพัฒนาที่ยั่งยืน คือการสร้างโลกให้แข็งแรงและดีกว่าปัจจุบัน และที่ร่วมมือกับ AFC Energy ใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีสะอาดจะช่วยให้ ABB เดินตามเป้าหมาย ‘ร่วมสร้างสังคมคาร์บอนต่ำ’ ได้เร็วขึ้น

“นับเป็นความสำเร็จครั้งประวัติศาสตร์ของการจำหน่ายเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจนที่เป็นกรรมสิทธิ์ของเราและเริ่มต้นความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ในระยะยาวกับ ABB ซึ่งสอดคล้องกับกลยุทธ์ Go-to-Market ของ AFC Energy เพราะ ABB ช่วยให้เราเข้าถึงลูกค้าทั้งในยุโรปและภูมิภาคอื่นๆ ได้” Adam Bond ซีอีโอของ AFC Energy อธิบายความร่วมมือเชิงกลยุทธ์

EV CHARGING STATION // www.afcenergy.com/h-power/electric-vehicle-charging

H Power Generator // www.afcenergy.com

The Netherland’s commitment to operate zero emission buses from 2025 is supported by ABB’s high power charging products. // twitter.com/ABB_Benelux

ส่วนเรื่องการตลาด ทั้งสองบริษัทจะทำการตลาดผลิตภัณฑ์ใหม่ร่วมกัน และจะผนึกกำลังพัฒนากลยุทธ์การสื่อสารเพื่อโปรโมท – ส่งเสริมการใช้งานระบบดังกล่าวเพื่อหนุนกันและกัน

รู้หรือไม่ ABB เข้าสู่ตลาดการชาร์จรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในปี 2553 ปัจจุบันจำหน่ายระบบฟาสต์ชาร์จไปแล้วกว่า 17,000 เครื่อง ใน 80 ประเทศ

Muehlon บอกว่า ความร่วมมือครั้งนี้เป็นการนำเสนอโซลูชันไร้มลพิษของผู้นำระดับโลกด้านเทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้าและเซลล์เชื้อเพลิงอัลคาไลน์ เพื่อวางโครงสร้างพื้นฐานรองรับการชาร์จรถยนต์พลังงานไฟฟ้ากำลังสูงในอนาคต

“นี่คือก้าวสำคัญที่จะนำไปสู่การลดการปล่อยคาร์บอนจากการเดินทางและการขนส่งทั่วโลก พร้อมกับลดต้นทุนและเพิ่มกำลังการผลิตต่อไป ท่ามกลางโอกาสใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นอีกมาก”

Muehlon ยังสรุปทิ้งท้ายว่า ความร่วมมือระหว่าง ABB กับ AFC Energy ในการพัฒนาระบบชาร์จรถยนต์พลังงานไฟฟ้ากำลังสูงแบบบูรณาการหรือฟาสต์ชาร์จ จะมอบศักยภาพที่เหนือกว่าตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าแบบเดิมๆ

“เพราะระบบฟาสต์ชาร์จสามารถนำไปใช้ในการขนส่งเชิงพาณิชย์และโลจิสติกส์ การขนส่งทางทะเล และการคมนาคมในเมืองได้ แล้วเราก็ยังพัฒนาโซลูชันอื่นๆ ที่มีความยั่งยืนเพื่อรองรับภาคส่วนที่กำลังเติบโต เช่น Data Center ร่วมด้วย เพื่อลดการปล่อยคาร์บอนให้ได้มากที่สุด”

ถ้าดีลนี้สำเร็จเมื่อไรก็เท่ากับว่า ทั้งสองมีส่วนสำคัญในการเพิ่มอัตราการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าทั่วโลก

แหล่งข้อมูล
https://www.salika.co/2021/01/03/afc-energy-abb-partner-dc-fast-charging-system/
https://new.abb.com/news/detail/55261/abb-selected-by-ionity-for-second-phase-of-european-charging-network-expansion