นวัตกรรมชุดหูฟังรักษาซึมเศร้า ผลข้างเคียงน้อยกว่าใช้ยา!

Loading

ที่ผ่านมาแนวทางรักษาโรคซึมเศร้ามักอาศัยยาต้านซึมเศร้าที่มีผลข้างเคียงค่อนข้างมาก แต่ทุกอย่างอาจเปลี่ยนไปเมื่อมีการพัฒนา หูฟังกระตุ้นสมองด้วยกระแสไฟฟ้า ที่แทบไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพ

ซึมเศร้า คือ ความผิดปกติทางอารมณ์ทำให้เกิดความเฉยชา เศร้าหมอง ไม่สนใจสิ่งรอบข้างจนส่งผลต่อการทำงานและใช้ชีวิตประจำวัน จัดเป็นโรคทางจิตเวชที่สร้างปัญหาให้แก่ทั้งตัวผู้ป่วยและคนรอบข้าง เนื่องจากอาการที่ส่งผลกระทบต่ออารมณ์ ความคิด นิสัย ไปจนพฤติกรรมของผู้ป่วยโดยตรง

นี่จึงเป็นเหตุผลในการคิดค้นแนวทางรักษาซึมเศร้าโดยการกระตุ้นสมองด้วยกระแสไฟฟ้า

ชุดหูฟังที่รักษาซึมเศร้าด้วยกระแสไฟฟ้า

ผลงานนี้เป็นของทีมวิจัยจาก The University of Texas Health Science Center และมหาลัยอื่นๆ ในการคิดค้นชุดหูฟังรุ่นใหม่ที่สามารถกระตุ้นสมองด้วยกระแสไฟฟ้า สู่แนวทางใหม่ในการบำบัดรักษาผู้ป่วยซึมเศร้าที่มีประสิทธิภาพได้ทุกที่ทุกเวลา

การใช้กระแสไฟฟ้ากระตุ้นสมองเพื่อรักษาซึมเศร้า เป็นแนวคิดในการส่งกระแสไฟฟ้าเข้าสู่สมองเพื่อกระตุ้นสมองให้หลั่งสารเคมีบางชนิด เช่น เซโรโทนิน โดปามีน และนอร์อิพิเนฟริน สารสื่อประสาทเหล่านี้จะช่วยให้ร่างกายตื่นตัวและอารมณ์แจ่มใสขึ้น ช่วยลดกระทบที่เกิดจากอาการซึมเศร้าของผู้ป่วย

ด้วยเหตุนี้ทางทีมวิจัยจึงได้พัฒนาชุดหูฟังที่มีคุณสมบัติส่งกระแสไฟฟ้าสู่กะโหลก โดยจะเป็นกระแสไฟฟ้าแรงดันต่ำในระดับไม่ถึง 2 มิลลิแอมป์ ส่งผ่านอิเล็กโทรด 2 ตัวที่ถูกวางทาบไว้บริเวณหน้าผากเพื่อการกระตุ้นสมองส่วนหน้า ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมอารมณ์ ความต้องการ และการนอนหลับ

ข้อมูลจากการทดสอบร่วมกับผู้ป่วยจำนวน 174 คนที่ได้รับการวินิจฉัยป่วยซึมเศร้าพบว่า ผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาจากการกระตุ้นสมองด้วยกระแสไฟฟ้ามีอาการดีขึ้นกว่า 58.3% และมีอัตราการหายจากโรคอยู่ที่ 44.9% ซึ่งสูงกว่ากลุ่มที่ไม่ได้รับการรักษาด้วยแนวทางนี้ซึ่งมีอาการดีขึ้น 37.8% และหายจากโรคอยู่ที่ 21.8% เป็นอย่างมาก

จุดเด่นของการรักษาด้วยกระแสไฟฟ้าและแนวโน้มในอนาคต

ถึงมีข้อมูลยืนยันข้างต้นหลายท่านก็อาจยังกังวลในการใช้กระแสไฟฟ้ากระตุ้นสมอง ด้วยภาพจำของผู้คนที่มองว่านี่เป็นแนวทางรักษาผู้ป่วยจิตเวชร้ายแรง อีกทั้งการกระตุ้นด้วยไฟฟ้ายังมีผลทำให้เกิดอาการสับสน ปวดศีรษะ หรือสูญเสียความทรงจำระยะสั้น ถือเป็นการรักษาที่อันตรายที่ต้องได้รับการดูแลควบคุมจากแพทย์อย่างใกล้ชิด

แต่นั่นเป็นข้อมูลจากแนวทางการกระตุ้นด้วยกระแสไฟฟ้าแบบเก่า แตกต่างจากหูฟังที่ทีมวิจัยพัฒนาที่มีอัตราการปล่อยกระแสไฟฟ้าเพียง 2 มิลลิแอมป์ เป็นระดับที่ทำให้เกิดความรู้สึกถูกไฟดูดในบริเวณผิวหนังเท่านั้น แต่ไม่มีผลกระทบต่อกล้ามเนื้อหรือระประสาทในร่างกาย จึงไม่ต้องกังวลถึงผลข้างเคียงที่เกิดในการรักษาแบบเก่า

ขั้นตอนการรักษาเบื้องต้นจะใช้เวลา 10 สัปดาห์ การรักษาแต่ละครั้งจะกินเวลา 30 นาที โดยใน 3 สัปดาห์แรกจะทำการรักษา 5 ครั้ง/สัปดาห์ หลังจากนั้นจะลดเหลือ 3 ครั้ง/สัปดาห์ หูฟังมีความปลอดภัยสูงสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องถึง 12 เดือนโดยไม่เกิดผลกระทบต่อสุขภาพ จึงสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้เมื่ออาการกลับมาเกิดซ้ำ

จุดเด่นสำคัญของการรักษาด้วยหูฟังนี้คือ ไม่มีผลกระทบต่อสุขภาพ แตกต่างจากแนวทางการรักษาทั่วไปที่อาศัยยาต้านซึมเศร้า ซึ่งมีผลข้างเคียงก่อให้เกิดอาการง่วง มึนงง คลื่นไส้ เวียนศีรษะ น้ำหนักเพิ่ม และมีปัญหาด้านการนอน ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพและการดำเนินชีวิตของผู้ป่วยในด้านอื่น

นอกจากนี้การรักษาด้วยหูฟังยังมีความปลอดภัยสูงและดำเนินโดยอัตโนมัติ ผู้ใช้งานสามารถดำเนินการรักษาได้โดยไม่ต้องมีการควบคุมดูแลจากแพทย์ และยังสามารถปฏิบัติกิจกรรมอื่นระหว่างการรักษาเพื่อให้เกิดความผ่อนคลายได้เช่นกัน ผู้ป่วยจึงสามารถเข้ารับการรักษาได้จากที่บ้านโดยแทบไม่รู้สึกคุกคามหรือรบกวนการใช้ชีวิต

หูฟังนี้จึงเป็นทางเลือกใหม่ในการรักษาโรคซึมเศร้าที่มีผลข้างเคียงต่อสุขภาพน้อยกว่ายาต้านซึมเศร้ามาก

ปัจจุบันชุดหูฟังนี้ไม่ได้เป็นเพียงเทคโนโลยีบนหน้ากระดาษหรืออยู่ในระหว่างการทดสอบ แต่ได้รับการผลิตจากบริษัท Flow Neuroscience และได้รับอนุญาตให้ใช้งานทั่วไป โดยเริ่มมีการวางจำหน่ายเชิงพาณิชย์ในสหราชอาณาจักร สนนราคาอยู่ที่ 500 ดอลลาร์สหรัฐฯ(ราว 17,557 บาท)

คาดว่าในไม่ช้าผู้ป่วยซึมเศร้าอาจได้ทดสอบใช้งานและได้รับการรักษาผ่านหูฟังนี้ก็เป็นได้

แหล่งข้อมูล

https://www.posttoday.com/smart-life/716124


Smart City Thailand : 02 054 7755
Contact us : thunya.b@gmail.com | thunya@securitysystems.in.th

© smartcitythailand 11 โกสุมรวมใจ ดอนเมือง กรุงเทพมหานคร 10210