‘ดีอี-BDI’ ชูบิ๊กดาต้า-AI เคลื่อนประเทศ ตั้งเป้าสร้างเม็ดเงิน 3,000 ล้านบ.

Loading

ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่พระราชกฤษฎีกา จัดตั้งสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ และให้ใช้ชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า Big Data Institute (BDI) เมื่อมิ.ย.2566 โดยมีวัตถุประสงค์ในการจัดทำยุทธศาสตร์เพื่อขับเคลื่อนการใช้ประโยชน์จากบิ๊กดาต้า

 BDI ประเมินว่า ภายในปี 2567 จากการขับเคลื่อนภารกิจหลักจะสร้างผลกระทบต่อมูลค่าทางด้านเศรษฐกิจกว่า 3,000 ล้านบาท สร้างโอกาสการจ้างงานจากการพัฒนากำลังคนด้านบิ๊กดาต้า มีมูลค่ามากกว่า 200 ล้านบาท สนับสนุน และพัฒนาให้รัฐทำงานร่วมกันผ่านการเชื่อมโยงข้อมูล

ทันทีที่ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่พระราชกฤษฎีกา จัดตั้งสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ และให้ใช้ชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า Big Data Institute (Public Organization) เรียกโดยย่อว่า BDI ไปเมื่อมิ.ย.2566 เพื่อให้การใช้ข้อมูลขนาดใหญ่ทั้งภาครัฐ และเอกชนเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศและเกิดการร่วมมือในข้อมูลขนาดใหญ่ของหน่วยงานของรัฐและเอกชนสำหรับการแก้ไขปัญหา การเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน และการให้บริการการตัดสินใจในการกำหนดนโยบายเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม

โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญในการจัดทำยุทธศาสตร์เพื่อขับเคลื่อนการใช้ประโยชน์จากข้อมูลขนาดใหญ่ รวมทั้งส่งเสริม ประสาน และวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อผลักดันให้เกิดการพัฒนาศักยภาพและยกระดับเศรษฐกิจและสังคมของประเทศให้เป็นไปอย่างยั่งยืน

ล่าสุด BDI ประกาศขยับสู่บทบาทในการส่งเสริมและประสานให้เกิดการใช้ข้อมูลเชิงวิเคราะห์เพื่อการตัดสินใจและบริการ พร้อมกันนี้ BDI ยังเป็นหน่วยงานผู้ให้บริการเชื่อมโยงและวิเคราะห์ข้อมูลในสาขาต่าง ๆ ด้วยวิทยาศาสตร์ข้อมูลและปัญญาประดิษฐ์ AI  สร้างระบบนิเวศในห่วงโซ่คุณค่าด้านข้อมูลทั้งในมิติของเทคโนโลยี และกำลังคน ส่งเสริมให้เกิดผู้ประกอบการด้านข้อมูลเพิ่มขึ้น รองรับอุปสงค์ของภาคอุตสาหกรรมไทย พร้อมด้วยพัฒนากำลังคนด้านบิ๊กดาต้า

ธีรณี อจลากุล ผู้อำนวยการสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ หรือ BDI เปิดเผยว่า จุดเด่นที่สำคัญของ BDI คือ การรวมตัวของคนรุ่นใหม่ด้านข้อมูลกว่า 100 คน ที่พร้อมเรียนรู้ ยืดหยุ่น คล่องตัว และมีเป้าหมายชัดเจน ที่จะพัฒนาความได้เปรียบในการแข่งขันของประเทศ เพื่อให้ประเทศไทยมีศักยภาพทางเศรษฐกิจที่มั่นคง ยั่งยืน และมีความโปร่งใส การพัฒนาดังกล่าวจะเกิดขึ้นได้ผ่านการผลักดันให้ประเทศไทยก้าวไปสู่การเป็นประเทศที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล Data-Driven Nation ซึ่งจะส่งผลให้การปฏิรูปประเทศเกิดขึ้นได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยอาศัยข้อมูลเพื่อนำทางการเปลี่ยนแปลงให้เป็นไปในทิศทางที่เหมาะสม

ทั้งนี้ BDI ประเมินว่า ภายในปี 2567 จากการขับเคลื่อนภารกิจหลักจะสร้างผลกระทบต่อมูลค่าทางด้านเศรษฐกิจกว่า 3,000 ล้านบาท

โดยจะมาจากผู้ใช้บริการแพลตฟอร์มข้อมูลสุขภาพ (Health Link) ซึ่งช่วยลดต้นทุนความซ้ำซ้อนของการบริการด้านสาธารณสุข และเพิ่มมูลค่าให้กับผู้ประกอบการภาคเอกชน ที่ใช้บริการแพลตฟอร์มข้อมูลด้านการท่องเที่ยว (Travel Link) ซึ่งได้รับอานิสงส์จากนโยบายฟรีวีซ่า (Free Visa) ตลอดจนสร้างโอกาสการจ้างงานจากการพัฒนากำลังคนด้านบิ๊กดาต้า มีมูลค่ามากกว่า 200 ล้านบาท พร้อมทั้งสนับสนุน และพัฒนาให้รัฐทำงานแบบบูรณาการร่วมกันผ่านการเชื่อมโยงข้อมูล และสร้างให้เกิดความร่วมมือกับภาคเอกชน โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ที่ภาครัฐ เอกชนและประชาชนจะได้รับ

ประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอี กล่าวว่า BDI จะเป็นองค์กรหลักที่ช่วยขับเคลื่อนประเทศด้วยการใช้ประโยชน์จากข้อมูลขนาดใหญ่ ลดปัญหาการทำงานแบบแยกส่วนกันของหน่วยงานภาครัฐ สามารถนำเอาข้อมูลต่าง ๆ มาใช้ร่วมกันจนเกิดประโยชน์สูงสุดเพื่อให้เกิดการพัฒนาประเทศและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างก้าวกระโดดและยั่งยืน รวมทั้งมีส่วนสำคัญในการช่วยยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขันด้านดิจิทัลและนวัตกรรมของไทยในเวทีโลกให้ดียิ่งขึ้น

3 โปรเจคหลัก ของ BDI ที่พร้อมนำข้อมูลมาสู่การขับเคลื่อนประเทศ
1 Project BIG: Big Data Integration and Governance

รวบรวมข้อมูลที่จำเป็นจากหน่วยงานต่าง ๆ จัดเก็บ รวมทั้งให้บริการการวิเคราะห์ข้อมูลตามโจทย์และความเหมาะสม เพื่อให้เกิดการนำไปใช้อย่างเป็นระบบ ประกอบด้วย

– โครงการ Health Link

แพลตฟอร์มเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพระหว่างสถานพยาบาลทั่วประเทศ ช่วยให้แพทย์สามารถดูประวัติการรักษาได้ทันที

– โครงการ Travel Link

แพลตฟอร์มเชื่อมโยงและพัฒนาบริการข้อมูลด้านการท่องเที่ยว ขยายขีดความสามารถการแข่งขันให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทย

– โครงการ Envi Link

แพลตฟอร์มบริการข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อมสำหรับพื้นที่เมือง เพื่อสนับสนุนการวางแผนนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม อากาศสะอาด และลด Carbon Footprint

– Data Analytics services

บริการบูรณาการ พัฒนาและวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่แก่หน่วยงานภาครัฐ

– Data and Information Technology

บริการด้านวิศวกรรมข้อมูล

2 Project Bridge

พัฒนาผู้ประกอบการโดยสร้างทั้งอุปสงค์และอุปทานของศาสตร์ด้านข้อมูล ประกอบด้วย

– Big Data Business Promotion

ศึกษาตลาดด้านข้อมูลขนาดใหญ่ วิเคราะห์โจทย์ปัญหา และให้คำปรึกษาในการใช้ประโยชน์จากข้อมูลอย่างเต็มประสิทธิภาพ เพื่อตอบโจทย์และเพิ่มศักยภาพทางธุรกิจ

– Big Data Ecosystem & Industrial Promotion

สร้างประชาคมและเครือข่ายภาคอุตสาหกรรม และส่งเสริมผู้ประกอบการในห่วงโซ่คุณค่าด้าน Big Data

– Research And Innovations

ค้นคว้า และพัฒนา ขับเคลื่อนธุรกิจสู่อนาคต ผ่านนวัตกรรมทาง Big Data และ AI

– Thai Large Language Model (ThaiLLM)

พัฒนา Thai Large Language Model (ThaiLLM) เป็น โครงสร้างพื้นฐานปัญญาประดิษฐ์สำหรับภาษาไทย โดยความร่วมมือทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อพัฒนาโมเดลภาษาขนาดใหญ่ภาษาไทย (ThaiLLM) ที่มีความสามารถในการสร้างข้อความที่มีความหมายและเป็นธรรมชาติใกล้เคียงกับการใช้ภาษาของมนุษย์ พร้อมทำการสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านปัญญาประดิษฐ์สำหรับภาษาไทยที่เป็นโมเดลกลาง (Foundation Model) ที่สามารถใช้งานได้อย่างกว้างขวางในหลากหลายงานประยุกต์ทั้งในภาครัฐและเอกชน

3 Project Learn

– Manpower Development in Big Data

พัฒนากำลังคนด้าน Big Data ยกระดับทักษะด้านการประมวลผล การวิเคราะห์ และปัญญาประดิษฐ์ AI เพื่อสร้างนักวิเคราะห์ข้อมูล และวิศวกรข้อมูล ให้กับประเทศ

– Big Data E-Learning and Practice-Based Learning

แพลตฟอร์มการเรียนรู้เพื่อพัฒนากําลังคนด้านบิ๊กดาต้าและ AI เพื่อพัฒนาทักษะเดิมให้ทันกับยุคสมัย (Upskill) และเพิ่มทักษะใหม่ที่จำเป็นสำหรับ Digital Age (New skill)

แหล่งข้อมูล

https://www.bangkokbiznews.com/tech/gadget/1114260


Smart City Thailand : 02 054 7755
Contact us : thunya.b@gmail.com | thunya@securitysystems.in.th

© smartcitythailand 11 โกสุมรวมใจ ดอนเมือง กรุงเทพมหานคร 10210