ข่าวจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ซึ่งแถลงโดยคุณไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 ที่ผ่านมา ว่าด้วย…
บันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการบางซื่อระหว่าง กระทรวงคมนาคมของไทย และ การรถไฟแห่งประเทศไทย… กับ กระทรวงที่ดิโครงสร้างพื้นฐาน การขนส่ง และการท่องเที่ยวแห่งญี่ปุ่น และ องค์กรพัฒนาและฟื้นฟูเมืองของญี่ปุ่น… เพื่อผลักดันแผนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะพื้นที่บริเวณบางซื่อไปสู่การปฏิบัติ
ซึ่งพื้นที่บริเวณบางซื่ออยู่ระหว่างการพัฒนาให้เป็นศูนย์กลางการคมนาคม และได้รับการวางแผนพัฒนาให้เป็นศูนย์กลางเมืองใหม่ของกรุงเทพมหานครในอนาคตอันใกล้นี้ รวมถึงยังเป็นหนึ่งในพื้นที่นำร่องในการส่งเสริมการพัฒนาเมืองอัจฉริยะภายใต้กรอบ ASEAN Smart City Network หรือ ASCN และภายใต้นโยบาย Thailand 4.0
นอกจากนั้น ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ยังได้อนุมัติให้ปลัดกระทรวงคมนาคม หรือ ผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามฝ่ายไทยในร่างบันทึกข้อตกลงดังกล่าว
สำหรับร่างบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการบางซื่อฯ มีสาระสำคัญดังนี้คือ… มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความร่วมมือในการดำเนินโครงการพัฒนาเมืองระหว่างฝ่ายไทยและฝ่ายญี่ปุ่น โดยมีกระทรวงคมนาคม การรถไฟแห่งประเทศไทยและองค์กรพัฒนาและฟื้นฟูเมืองของญี่ปุ่น ร่วมกันกำหนดรูปแบบความร่วมมือ และองค์กรพัฒนาและฟื้นฟูเมืองของญี่ปุ่น จะทำหน้าที่ให้คำแนะนำในการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับโครงการ
แผนพัฒนาเมืองอัจฉริยะพื้นที่โดยรอบบริเวณบางซื่อ หรือ Bang Sue Smart City จะนำเสนอรูปแบบความเป็นอัจฉริยะใน 3 ด้าน ประกอบด้วย
- การคมนาคมขนส่งอัจฉริยะ เป็นรูปแบบเมืองที่ผู้คนสามารถเดินในบริเวณพื้นที่ได้อย่างสบายและปลอดภัย สามารถเคลื่อนที่ไปยังจุดต่างๆได้ง่าย มีเครือข่ายทางเดินลอยฟ้าเชื่อมระหว่างสถานีกลางบางซื่อกับโซนต่างๆ
- การบริหารจัดการพลังงานอัจฉริยะ จะมีการใช้ระบบ Regional Cooling Network แหล่งกำเนิดความเย็นประสิทธิภาพสูง การใช้พลังงานแสงอาทิตย์ และนำระบบสื่อสารสารสนเทศและเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์มาใช้ในการบริหารจัดการพลังงาน
- การบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมอัจฉริยะ โดยจะพัฒนาพื้นที่สีเขียวบริเวณรอบสวนจตุจักร มีการจัดการน้ำเสียและสิ่งปฏิกูลโดยเน้นการรีไซเคิลและลดการทิ้งขยะที่เป็นของแข็ง ให้บริการขนส่งคมนาคมด้วยรถEV การส่งเสริมการแชร์จักรยาน และการจัดโซนให้ความสำคัญกับผู้เดินเท้าเป็นอันดับแรก
ข้อตกลงในการดำเนินงานผ่านความร่วมมือตามข้อตกลงนี้ ทั้งฝ่ายไทยและฝ่ายญี่ปุ่นจะมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกันตามรายละเอียดที่จะเกิดขึ้น… ส่วนค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นนั้น… แต่ละฝ่ายจะเป็นผู้รับผิดชอบเอง โดยบันทึกข้อตกลงจะมีอายุ 2 ปี และต่ออายุอัตโนมัติได้อีก 2 ปี มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ทุกฝ่ายลงนาม ทั้งนี้ร่างบันทึกข้อตกลงดังกล่าวจะไม่มีผลผูกพันทางกฎหมายระหว่างประเทศ และให้ดำเนินการตามกฎหมาย กฎระเบียบ ข้อบังคับและนโยบายของประเทศตนเอง ส่วนข้อมูลและข่าวสารที่แลกเปลี่ยนกันภายใต้ร่างบันทึกข้อตกลงจะเป็นข้อมูลความลับ
ประเด็นที่น่าสนใจและเกาะติด Bang Sue Smart City ก็คือ อนาคตของย่านนี้จะเติบโตเหมือนพื้นที่รอบหัวลำโพงสมัยสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง รัชกาลที่ 5 และอีกร้อยปีต่อมาอย่างที่เราเห็นเยาวราช วงเวียน 22 หรือแม้แต่บรรทัดทอง… แต่บางซื่อดูเหมือนจะมีอะไรเด็ดๆ กว่านั้นมาก เมื่อมีการวางแผนเติบโตภายใต้การขับเคลื่อนด้วยแนวคิด Smart City ซึ่งทุกคนที่เห็นข้อมูลและแนวโน้มครบๆ จะทราบว่า ภายในปี 2030 นี้… อะไรๆ แถวบางบางซื่อก็คงไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว
ขอบคุณแหล่งข้อมูล
https://properea.com/bang-sue-smart-city-03-12-2020/