- หากจะไปสนามบินต้องรีบไปแต่เช้าตรู่เพื่อไม่เสียเวลาไปต่อคิวเช็กอิน ยืนยันตัวตน หรือกระบวนการอื่นๆที่ยุ่งยากในสนามบิน
- จะดีไม่น้อยถ้ามีเทคโนโลยี นวัตกรรมมาช่วยสิ่งเหล่านี้ให้เร็วขึ้น โดยเฉพาะ AI ที่จะเข้ามามีบทบาทอย่างมากในอนาคตอันใกล้นี้
- AOT ยกระดับสนามบิน นำ AI เพิ่มประสิทธิภาพ เช็กอิน ตรวจสอบระบบยืนยันตัวตน อำนวยความสะดวก เพิ่มความสุข ผู้โดยสารใช้ท่าอากาศยาน
AOT ยกระดับสนามบิน นำ AI เพิ่มประสิทธิภาพ เช็กอิน ตรวจสอบระบบยืนยันตัวตน อำนวยความสะดวก เพิ่มความสุข ผู้โดยสารใช้ท่าอากาศยาน
เคยเป็นเหมือนกันมั้ย? เวลามาบิน เราต้องเร่งรีบแบบสุดฤทธิ์สุดเดช แบบไม่คิดชีวิตเพื่อไม่ให้ตกเครื่องเราก็ต้องรีบไปแต่เช้าตรู่เพื่อไม่เสียเวลาไปต่อคิวเช็กอิน ยืนยันตัวตน หรือกระบวนการอื่นๆที่ยุ่งยากในสนามบิน จะดีไม่น้อยถ้ามีเทคโนโลยี นวัตกรรมมาช่วยสิ่งเหล่านี้ให้เร็วขึ้น โดยเฉพาะ AI ที่จะเข้ามามีบทบาทอย่างมากในอนาคตอันใกล้นี้ และจะช่วยอำนวยความสะดวกได้เป็นอย่างดี
อีกหนึ่งไฮไลท์ที่น่าสนใจจากงานสัมมนา AI Revolution ในหัวข้อ “ AI Empowering Business Opportunities ที่จัดโดย กรุงเทพธุรกิจ ซึ่ง “วรวุฒิ แสนทวีสุข” ฝ่ายพัฒนาดิจิทัลโซลูชั่น บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT กล่าว ในหัวข้อ “ AI Empowering Business Opportunities ว่า AOT ได้นำ AI หรือเทคโนโลยีมาใช้ในการบริการผู้โดยสารในสนามบิน และการเตรียมความพร้อมของบุคลากรเพื่อรองรับเทคโนโลยีใหม่
ทั้งนี้ได้วางเป้าไว้ว่าจะต้องทำให้ผู้โดยสารมีเวลาอยู่ในสนามบินมากขึ้น และความสุขกับการอยู่ที่สนามบิน ดังนั้น AOT จึงนำเทคโนโลยีมาช่วยลดขั้นตอนการเช็กอินของผู้โดยสาร ซึ่งเดิมมีขั้นตอนมาก และใช้เวลานานในส่วนนี้ ซึ่งแต่จะจุดก็มีขั้นตอนการดำเนินงานของแต่ละโซนแต่ละจุด ดังนั้นจะทำอย่างไรให้แต่ละโซนสามารถเชื่อมโยงกันได้ และใช้เวลาน้อยที่สุด
สำหรับไฮไลท์ที่สำคัญ คือ การนำ AI มาช่วยลดขั้นตอนการเช็กอิน เพื่อให้ผู้โดยสารมีเวลามากขึ้น และมีความสุขกับสิ่งต่างที่อยู่ในสนามบินก่อนเดินทาง เนื่องจากมองว่า AI มีความเก่ง ความเร็ว การวิเคราะห์ข้อมูล เราก็ดึงในส่วนนี้เข้ามาใช้ โดยการใช้เครื่องเช็กอินอัตโนมัติ ระบบยืนยันตัวตนอัตโนมัติ (Biometric) โดยระบบนี้สามารถลดระยะเวลาการตรวจพาสปอร์ตเทียบกับใบหน้าได้เร็วมาก และระบบตรวจคนเข้าเมือง เช่น เมื่อเราเข้ามาสนามบินแล้ว ต้องเข้ามาเช็กอินในจุดของผู้โดยสาร
นอกจากนี้ยังจะใช้ AI ในการเก็บข้อมูลของผู้โดยสารเพื่อนำไปใช้ได้กับจุดอื่นๆ ได้ด้วยโดยไม่ต้องทำขั้นตอนซ้ำๆแบบเดิม ทั้งการสแกนหน้า สแกนพาสปอร์ต เที่ยวบินอะไร การเช็กตัวตนในจุดของการตรวจคนเข้าเมืองหรือตม. เราใช้การสแกนหน้าเพื่อแสดงตัวตน การสแกนพาสปอร์ตเพื่อตรวจสอบว่า เป็นของจริงหรือเป็นของปลอม รวมถึงมีข้อมูลการถูกแบล็กลิสต์จากเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย ขณะที่ระบบขาเข้าเมืองก็เช่นกันใช้การสแกนพาสสปอร์ตเพื่อการยืนยันตัวตน
อย่างไรก็ตาม AOT ต้องการผู้โดยสารนานขึ้น ผ่านการเช็กอิน ผ่าน ตม. เพื่อเข้าสู่ชอปปิงโซนได้รวดเร็ว และมีเวลาในจุดนี้มากขึ้น ทำให้ผู้โดยสารมีความสุข เหมือนอยู่ในห้างสรรพสินค้า อีกส่วนหนึ่งคือ เมื่อ สนามบินมีอำนวยความสะดวกมากขึ้นก็จะดึงผู้โดดสาร และเพิ่มตารางการบิน (สล็อต) ได้มากขึ้นเช่นกัน โดยการนำ AI มาใช้ในสนามบินเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้โดยสาร ลดเวลาการเช็กอิน มีประสบการณ์ที่ดีในสนามบิน และเพิ่มปริมาณผู้โดยสารให้มากขึ้น
สุดท้าย คือ เรื่องการเตรียมความพร้อมของบุคลากรเพื่อรองรับเทคโนโลยีใหม่ นั้น AOT เห็นว่า เราต้องให้พนักงานเปลี่ยน mindset หรือแนวคิด โดย AOT มุ่งมั่นส่งเสริมให้บุคลากรใช้ความคิดสร้างสรรค์ การใช้เทคโนโลยีเพื่อสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว แม้ว่า AI จะมีความรวดเร็วในการเพิ่มประสิทธิภาพ แต่ในอีกมุมต้องไม่ลืมเรื่องของความปลอดภัยด้วย
แหล่งข้อมูล