ศาสตราจารย์ด้าน AI ชี้ สิ่งเดียวที่ AI ไม่มีวันสู้มนุษย์ได้คือ ‘ความสงสัยใคร่รู้’

Loading

ทุกวันนี้การใช้ AI ขยายตัวไปทั่วทุกหัวระแหงจนแทบทุกสาขาอาชีพเริ่มมีคำถามคล้ายๆ กันว่า AI จะมาทำงานแทนตนเองในที่สุดหรือไม่ และพัฒนาการของมันก็เร็วมากระดับที่ว่าแม้แต่คนจำนวนไม่น้อยที่เคยยืนยันว่า AI ‘สู้มนุษย์’ ไม่ได้หรอกก็เริ่มเงียบเสียงลงไปแล้วหลังจาก AI พัฒนาอย่างรวดเร็ว และดีเบตสำหรับคนไม่น้อยก็เลยย้ายจากคำถามว่า AI จะทำงานแทนมนุษย์ ‘ได้หรือไม่’ มาเป็นคำถามว่า ‘ควรหรือไม่’ ที่ AI จะมาทำงานแทนที่มนุษย์

อย่างไรก็ดีในความที่จะดูสิ้นหวังนี้ อดีตผู้เชี่ยวชาญ AI ประจำ NVIDIA ที่ปัจจุบันเป็นศาสตราจารย์ด้านคอมพิวเตอร์ที่ California Institute of Technology ด้วยอย่าง ‘อนีมา อนันทกุมาร’ ได้ให้ข้อคิดที่น่าสนใจมากๆ และอาจเป็น ‘ความหวัง’ ของหลายๆ คนเลย ผ่านบทสัมภาษณ์ของเธอที่ช่อง EO ใน YouTube (ดูเต็มๆ ได้ที่ https://youtu.be/FIxLJVthW6I?si=YQvGtYsANaPp9lqz)

ในความคิดของอนีมา ยังไง AI ก็เป็นเพียง ‘เครื่องมือ’ และถ้าเราคิดว่ามันเป็นอะไรมากกว่านั้นเรากำลังเข้าใจอะไรผิด เพราะสุดท้ายหน้าที่ของมนุษย์คือการ ‘มอบหมายงาน’ ให้ AI อยู่ดี ซึ่งประเด็นที่อนีมาบอกว่าสิ่งที่ AI สู้มนุษย์ไม่ได้แน่นอนคือความสงสัยใคร่รู้ จนนำไปสู่คำถามยากๆ

อนีมาซึ่งเป็นนักวิชาการรู้ดีว่าปริศนาของโลกที่นักวิจัยใช้ชีวิตทั้งชีวิตวิจัยอาจไม่ได้ข้อสรุปมันมีแค่ไหน และเธอก็ไม่เห็นว่าการที่ AI จะมาช่วยตอบเรื่องเหล่านี้จะมีปัญหาอะไร

ประเด็นคือ AI มันถามคำถามเองไม่ได้ มันตอบได้อย่างเดียว การสร้างคำถามใหม่ๆ เป็นสิ่งที่ต้องใช้จินตนาการของมนุษย์ที่สร้างสรรค์จริงๆ และ AI ที่มีความถนัดในการเลียนแบบแพตเทิร์นที่มีอยู่แล้ว มันย่อมไม่สามารถถามคำถามที่สร้างสรรค์ได้ในระดับเดียวกันกับมนุษย์ขี้สงสัยสักคนที่ชอบถามคำถามอะไรพิลึกๆ

ดังนั้นในแง่นี้ ศักยภาพ AI ก็อยู่ที่จินตนาการของผู้ใช้ ผู้ใช้มีจินตนาการมาก มันก็จะทำสิ่งที่ยากแบบตอบคำถามที่มนุษย์ไม่เคยตอบได้มาก่อนได้ แต่กระบวนการทั้งหมดมันจะไม่เกิดเลยถ้ามนุษย์ไม่สามารถสร้างโจทย์ที่ท้าทายระดับนั้นมาให้ AI

ทั้งนี้ สำหรับคำถามว่า AI จะแย่งงานได้หรือไม่ อนีมาก็ประเมินไม่ต่างจากผู้เชี่ยวชาญคนอื่นๆ ว่างานทางความคิดง่ายๆ ไม่รอดแน่นอน และก็ดังเช่นกับผู้เชี่ยวชาญคนอื่นๆ อนีมาคิดว่า ยุคต่อไปที่ AI จัดการงานง่ายๆ ได้หมด มนุษย์ที่จะเป็นที่ต้องการก็คือ คนที่สามารถบอกได้ว่า AI ทำงานออกมาเป็นอย่างไร และจะทำอย่างไรให้งานดีขึ้นบ้าง หรือพูดอีกแบบงานมันจะเป็นคล้ายๆ การเป็น ‘บรรณาธิการ’ ให้ AI คือต้องคอยคัดกรองและรับประกันคุณภาพงาน กล่าวคือ AI ที่ไม่มีมนุษย์คอยเช็ก มันก็ไม่ได้ต่างจากกระบวนการเขียนที่ไร้บรรณาธิการ ที่ถ้านิดๆ หน่อยๆ เราอาจไม่เห็นปัญหา แต่ถ้าระยะยาว เราเริ่มเห็น AI ทำสิ่งที่ผิดร้ายแรง เราก็จะเห็นเองว่า ‘บรรณาธิการ’ คัดกรองและปรับปรุงสิ่งที่ออกมาจาก AI นั้นสำคัญแค่ไหน

ซึ่งนี่ก็นำเรากลับไปตอนแรก งานของมนุษย์กับ AI มันอาจเหมือนงานของบรรณาธิการกับลูกน้อง สุดท้ายบรรณาธิการที่เก่งนั้นแม้ว่าจะไม่ได้เขียนงานเอง แต่ก็มีหน้าที่กระตุ้นให้ลูกน้องผลิตงานดีๆ มาให้ได้ในทางใดทางหนึ่ง และกรณีกับ AI กระบวนการที่สำคัญคือการตั้งคำถามหรือตั้งโจทย์ที่ท้าทายพอที่ AI จะฉายแววมาให้ได้ ซึ่งจริงๆ นั่นก็ไม่ได้ต่างจากการทำงานของบรรณาธิการอีก เพราะบรรณาธิการที่เก่งนั้นไม่ใช่สักแต่แค่สั่งงาน แต่ต้องหาจุดเด่นของลูกน้องและดึงศักยภาพเฉพาะออกมาเพื่อให้งานดีขึ้นอีกระดับด้วย

แหล่งข้อมูล

https://www.facebook.com/photo/?fbid=1259250549096612&set=a.811136570574681


Smart City Thailand : 02 054 7755
Contact us : thunya.b@gmail.com | thunya@securitysystems.in.th

© smartcitythailand 11 โกสุมรวมใจ ดอนเมือง กรุงเทพมหานคร 10210