ในยุคปัจจุบัน การนำ AI (Artificial Intelligence) หรือ “ปัญญาประดิษฐ์” มาใช้ในชีวิตประจำวัน เริ่มมีแพร่หลายมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเป็นที่ทราบกันดี ว่า AI นั้นช่วยผ่อนแรงมนุษย์อย่างแน่นอน แถมยังช่วยลดค่าใช้จ่ายได้อย่างมหาศาล เราจึงเห็นแวดวงอุตสาหกรรมและการพาณิชย์หรือภาคธุรกิจต่างๆ นำ AI มาใช้กันถ้วนหน้า
และแน่นอนว่า “ภาคการเกษตร” ได้เริ่มนำเอา AI มาปรับใช้แล้วเช่นกัน เห็นได้จากเมื่อไม่นานมานี้ ได้มีเกษตรกรใช้รถแทรกเตอร์แบบไร้คนขับเพื่อเตรียมดินสำหรับการเพาะปลูก ครั้งแรกในสหราชอาณาจักร รวมถึงใช้ในการหว่านเมล็ดพืชอีกด้วย
เกษตรกรคนดังกล่าวบอกว่า “หุ่นยนต์เกษตร” ทั้ง 2 ตัวนี้ คือ “อนาคตของภาคการเกษตร” อย่างแท้จริง เพราะพวกมันสามารถช่วยทำงานได้นานถึง 30 ชั่วโมงต่อการชาร์จแบตหนึ่งครั้ง
เท่านั้นยังไม่พอ เพราะ “หุ่นยนต์เกษตร” ทั้ง 2 ตัวยังช่วยลดการทำลายเนื้อดินได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าในปัจจุบัน AI ใน “ภาคการเกษตร” จะยังมีราคาแพง แต่เชื่อกันว่า ในอนาคตอันใกล้ ราคาของ AI ใน “ภาคการเกษตร” จะลดลงอย่างมาก เพราะมันจะเข้ามาแทนที่เครื่องจักรแบบดั้งเดิมในการทำงานที่กว้างขึ้น
สิ่งที่ไม่น่าเชื่อก็คือ “สหภาพเกษตรกรแห่งสหราชอาณาจักร” ได้ออกมาเผยว่า มีความยินดี ที่ภาคการเกษตรจะนำความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์หรือ AI มาใช้ แม้จะยังกังวลในประเด็นความเหมาะสมในเรื่องราคาก็ตาม โดยในปัจจุบัน รถแทรกเตอร์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ ยังคงมีราคาแพงราว 180,000-320,000 ปอนด์ หรือราว 8.26-14.69 ล้านบาทต่อคัน
แม้ว่าในปัจจุบัน ภาพรวมของอุตสาหกรรมการเกษตร จะยังคงยึดติดอยู่กับเครื่องจักรขนาดใหญ่ แต่เมื่อเวลาผ่านไป การใช้เครื่องจักรเหล่านั้นจะทำลายโครงสร้างของดิน และทำลายความหลากหลายทางชีวภาพอย่างมาก และอย่างต่อเนื่อง แต่ AI ใน “ภาคการเกษตร” จะมีน้ำหนักที่เบากว่า พวกมันจึงเป็นมิตรกับดินมากกว่า ทำให้ เมื่อเวลาผ่านไป หากใช้ AI ใน “ภาคการเกษตร” อย่างต่อเนื่อง ก็จะสามารถฟื้นฟูโครงสร้างดินได้บางส่วน และผลผลิตในไร่จะดีขึ้นในทิศทางที่ยั่งยืนอีกด้วย
อนึ่ง สำหรับรถแทรกเตอร์ไร้คนขับ หรือ AI ใน “ภาคการเกษตร” มีขนาดราวครึ่งหนึ่งของรถแทรกเตอร์รุ่นก่อนๆ โดยได้มีการติดตั้งระบบการใช้งานหลากหลาย เช่น ระบบเรดาร์, อัลตราซาวด์ และระบบเซนเซอร์ ที่จะช่วยให้รถหยุดหากตรวจพบวัตถุกีดขวาง และรถแทร็กเตอร์ก็จะส่งสัญญาณเตือนเจ้าของไร่ทันทีที่มันพบกับสิ่งกีดขวาง
ทั้งนี้ “สหภาพเกษตรกรแห่งสหราชอาณาจักร” ได้ยืนยันว่า การใช้ปัญญาประดิษฐ์จะไม่นำไปสู่การทำให้จำนวนเกษตรกรลดน้อยลง เพราะ AI ใน “ภาคการเกษตร” มีแต่จะช่วยให้เกษตรกรทำการเกษตรได้ดีขึ้น
ดังนั้น การเข้ามาของ AI ใน “ภาคการเกษตร” ได้มาช่วยกำจัดงานที่น่าเบื่อ หรืองานที่ล่าช้า เพราะเกษตรกรไม่จำเป็นต้องนั่งอยู่บนรถแทรกเตอร์หลายชั่วโมงอีกต่อไป แม้ว่าอาจจะต้องใช้เวลาอีกหลายปี กว่าที่รถแทรกเตอร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI จะได้รับการยอมรับ และถูกนำไปใช้งานอย่างกว้างขวางมากขึ้น ซึ่งบางที อาจต้องใช้เวลานานถึง 5 ปี ก่อนที่ AI ใน “ภาคการเกษตร” จะได้รับการยอมรับ
สิ่งที่เราจะได้เห็น ก็คือ ความเชื่อมั่นของเกษตรกรในวงกว้างที่เล็งเห็นประโยชน์ และเชื่อในเทคโนโลยีนี้อย่างแท้จริง และเมื่อเวลาผ่านไป AI ใน “ภาคการเกษตร” ก็จะได้รับการยอมรับ จนกลายเป็นเรื่องปกติในที่สุด เพราะรถแทรกเตอร์ AI ที่ขับเคลื่อนด้วยตัวเอง คือ “การปฏิวัติวงการเกษตรครั้งใหญ่” นั่นเอง
แหล่งข้อมูล