เมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมานี้เอง มีรายงานข่าวที่น่ายินดีท่ามกลางข่าววิกฤตโควิด-19 เกิดขึ้นว่า เกรท วอลล์ มอเตอร์ (Great Wall Motor) หรือ GWM ผู้ผลิตรถเอสยูวีและรถกระบะระดับโลก และกำลังจะก้าวเป็นผู้นำอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าสมัยใหม่ (xEV) ได้ประกาศเตรียมเปิดโรงงานอัจฉริยะแห่งแรกในภูมิภาคอาเซียน อย่างเป็นทางการที่ จังหวัดระยอง หนึ่งในสามจังหวัด ที่อยู่ในพื้นที่ เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC เพื่อผลิตและส่งมอบรถยนต์คุณภาพให้กับผู้บริโภคชาวไทย และเดินหน้ายกระดับประเทศไทยสู่ผู้นำอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในอนาคตอันใกล้
ปรากฎการณ์นี้ ไม่ใช่แค่ การเปิดโรงงานผลิตรถยนต์ธรรมดาเท่านั้น เพราะจากรายงานข่าว ได้ระบุด้วยว่า โรงงานอัจฉริยะ (Smart Factory) แห่งนี้มาพร้อมด้วยเทคโนโลยีการผลิตอันล้ำสมัยควบคู่กับระบบความปลอดภัยที่ได้มาตรฐาน ภายใต้แนวคิด “ฉลาด ปลอดภัย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม” (Intelligence, Safety and Green)
นับถอยหลัง รอชมยานยนต์สุดล้ำ ที่จะเกิดขึ้นที่ Smart Factory เกรท วอลล์ มอเตอร์ @ ระยอง
GWM เริ่มเข้ามาดำเนินธุรกิจในไทยตั้งแต่ช่วงกลางปี พ.ศ.2563 และดำเนินงานตามกลยุทธ์โลกาภิวัตน์ (Globalization Strategy) ซึ่งตั้งแต่ช่วงเวลาที่เปิดตัวธุรกิจในไทย ก็สร้างความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง
โดยในส่วนของการผลิต GWM ได้เข้ามาดำเนินการปรับปรุงและอัปเกรดระบบของโรงงานระยอง ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2563 ด้วยการนำเครื่องจักรและนวัตกรรมอันล้ำสมัยเข้ามาติดตั้ง ซึ่งสิ่งที่จะเกิดขึ้นในโรงงานอัจฉริยะแห่งแรกของอาเซียนที่ระยอง คือ
- เทคโนโลยีระบบส่งกำลัง (Powertrain Technologies) ที่ทันสมัยที่สุดเป็นลำดับต้นๆในภูมิภาคนี้
- นวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบการผลิตอัตโนมัติอย่าง AI (Artificial Intelligence) พร้อมเทคโนโลยีหุ่นยนต์จากประเทศจีน
- การพัฒนาทักษะ ความเชี่ยวชาญ และความสามารถในการผลิตรูปแบบใหม่ๆ ให้กับบุคลากรไทยให้สามารถดำเนินงานได้อย่างเต็มศักยภาพและมีประสิทธิภาพ
และปัจจัยทั้งในเรื่องเทคโนโลยีและความเชี่ยวชาญของบุคลากรนี้เอง ที่จะเป็น Key success ช่วยยกระดับและพัฒนาโรงงานระยองสู่การเป็น “Smart Factory” หรือ “โรงงานอัจฉริยะ” ตามมาตรฐานโรงงานของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ทั่วโลก ได้อย่างสมบูรณ์
กำลังการผลิตแบบเต็มกำลังของโรงงานเกรท วอลล์ มอเตอร์ จังหวัดระยอง อยู่ที่ 80,000 คันต่อปี และจะเป็นฐานการผลิตหลักสำหรับรถยนต์พวงมาลัยขวาของภูมิภาคนี้ โดยจะมีสัดส่วนของการผลิตและส่งออกอยู่ที่ 60:40 กล่าวคือ จะจำหน่ายภายในประเทศ 60% และจะเป็นการส่งออกไปยังประเทศที่เป็นรถยนต์พวงมาลัยขวา 40%
โดยโรงงานแห่งนี้ ใช้ระยะเวลาเพียง 7 เดือน ก็พร้อมแล้วที่จะเปิดโรงงานอัจฉริยะแบบเต็มรูปแบบแห่งแรกของภูมิภาคเอเซียนในประเทศไทย ซึ่งจะมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2564 ที่โรงงานเกรท วอลล์ มอเตอร์ จังหวัดระยอง
อัปเดต โรงงานอัจฉริยะเกรท วอลล์ มอเตอร์ ทั่วโลก
ในปัจจุบันเกรท วอลล์ มอเตอร์ มีโรงงานผลิตเต็มรูปแบบรวมทั้งสิ้น 12 แห่ง ทั่วโลกรวมโรงงานที่จังหวัดระยองในประเทศไทย และมีโรงงานแบบ KD (Knock Down) อีก 5 แห่งนอกประเทศจีน โดยแต่ละโรงงานจะมีกำลังการผลิต เทคโนโลยี และความโดดเด่นที่แตกต่างกัน เพื่อรองรับการผลิตรถยนต์ในแต่ละประเภทและแต่ละภูมิภาคที่ต่างกัน
อาทิ โรงงานอัจฉริยะในเมือง Chongqing ประเทศจีน จะมีหุ่นยนต์อัจฉริยะปฏิบัติการเกี่ยวกับการเชื่อมและพ่นสี เน้นการผลิตรถกระบะ P Series และ HAVAL หรือ โรงงานอัจฉริยะในเมือง Taizhou ที่มีการจัดตั้งสมาร์ทพาร์คเชื่อมโยงระบบข้อมูลอัจฉริยะที่มีการประสานงานอย่างครอบคลุมตั้งแต่การวิจัย การผลิต การจัดหา การตลาด ทรัพยากรบุคคล การเงิน เข้าด้วยกัน
และยังใช้เป็นการฐานการผลิตรถยนต์ ORA Good Cat เป็นหลัก เป็นต้น นอกจากการตั้งฐานการผลิตในภูมิภาคสำคัญต่างๆ ทั่วโลกแล้ว เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังมีเครือข่ายศูนย์วิจัยและพัฒนากว่า 10 แห่ง ใน 7 ประเทศทั่วโลก เพื่อเฟ้นหาและพัฒนาเทคโนโลยีด้านยานยนต์ใหม่ๆ เพื่อนำมาประยุกต์ใช้กับการผลิตรถยนต์ให้ทันสมัย ปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น
ไม่หยุดแค่ โรงงานอัจฉริยะ เปิด GWM Store ควบคู่ กุมยอดขายทั้ง Online & Offline
ไม่ใช่แค่ข่าวการเปิด โรงงานอัจฉริยะแห่งแรกในภูมิภาคอาเซียน อย่างเป็นทางการที่ จังหวัดระยอง เท่านั้น แต่กลยุทธ์การตลาดที่เกรท วอลล์ มอเตอร์ เลือกที่จะพลิกโฉมตลาดรถยนต์ในไทย คือ แผนการดำเนินธุรกิจรูปแบบใหม่ “New Retail Concept” แบบ O2O (Online-To-Offline) ภายใต้กลยุทธ์ New User Experience
และประเทศไทยจะเป็นประเทศแรกในโลกที่จะนำรูปแบบการทำธุรกิจนี้มาประยุกต์ใช้ ในโชว์รูมรูปแบบใหม่แห่งแรกของโลกที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลบางนาเกรท วอลล์ มอเตอร์ เพื่อมุ่งเน้นให้ผู้บริโภคได้รับบริการและความพึงพอใจสูงสุด
ทั้งนี้ กลยุทธ์ใหม่นี้ เน้นการเข้าไปนั่งในใจลูกค้า ด้วยบริการที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ ดังนี้
- Best Choice : ลูกค้าต้องเป็นผู้เลือกสิ่งที่ดีที่สุดได้ด้วยตัวเอง
- Transparency : ลูกค้าต้องได้รับการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่โปร่งใส ตรงไปตรงมา
- Happiness & Loyalty : ลูกค้าจะต้องมีความสุขและประสบการณ์ที่ดีกับแบรนด์ตลอดการเป็นเจ้าของ และพร้อมที่จะส่งมอบความสุขนี้ให้กับผู้อื่นด้วยการบอกต่อ
โดยรูปแบบการดำเนินธุรกิจแบบใหม่นี้ ผู้บริโภคสามารถสร้างประสบการณ์ส่วนตัวตั้งแต่การค้นหาข้อมูล การทดลองขับ การจองรถ การจ่ายเงิน การรับบริการหลังการขาย ทุกอย่างผ่าน GWM Application ซึ่งเพิ่มความสะดวกสบาย ความเป็นส่วนตัว และการจดจำข้อมูลทุกอย่างผ่านเพียงอุปกรณ์สื่อสารและปลายนิ้วสัมผัส
ณรงค์ สีตลายน กรรมการผู้จัดการ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ประเทศไทย
ณรงค์ สีตลายน กรรมการผู้จัดการ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า
“ธุรกิจรูปแบบใหม่ของเรา เกิดจากการลงไปศึกษาความต้องการที่แท้จริงของผู้บริโภคในทุกมิติ ทั้งปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ที่ลูกค้าต้องเผชิญในระหว่างกระบวนการขายและบริการ รวมถึงการสัมภาษณ์เจ้าของธุรกิจและผู้จัดจำหน่าย เพื่อหาแนวทางร่วมในการตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นผ่านกระบวนการ “Design Thinking” จนสามารถออกแบบการมอบประสบการณ์แบบ O2O ที่ดีที่สุดให้กับผู้บริโภค
“เพราะหนึ่งในหัวใจสำคัญในการทำงานของเราคือหลักการ User-centric หรือลูกค้าคือศูนย์กลางสำคัญ ดังนั้น รูปแบบธุรกิจของเราจึงไม่ใช่เป็นเพียงการขายรถยนต์ แต่ยังครอบคลุมถึงการให้บริการในทุกๆ ด้านกับลูกค้าของเรา หรือ Product as a service (PAAS) ซึ่งรูปแบบธุรกิจใหม่นี้ จะเป็นการนำเอาเทคโนโลยี แพลตฟอร์ม และการสร้างประสบการณ์รูปแบบใหม่ให้กับลูกค้าอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนด้วย”
รูปแบบการดำเนินธุรกิจของเกรท วอลล์ มอเตอร์ ทำผ่านเครือข่าย 2 รูปแบบ ได้แก่ GWM Store และ Partner Store โดยตั้งเป้าหมายที่จะเปิด GWM Store ซึ่งลงทุนและดำเนินการโดย เกรท วอลล์ มอเตอร์ รวมไปถึง Partner Store ที่เปิดร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจ รวมทั้งสิ้น 30 แห่ง ภายในสิ้นปี
โดยในครึ่งปีแรกเกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้บรรลุเป้าหมายดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และยืนยันว่าจะมีการเปิด GWM Store 10 แห่ง และ Partner Store 20 แห่ง รวมถึงร้านและสาขาอื่นๆ ที่จะตามมาเพิ่มเติมภายในครึ่งปีหลัง
ทั้งนี้ภายในเดือนมิถุนายนนี้ GWM จะมีการเปิดตัว GWM Store เพิ่มอีก 2 สาขาอย่างเป็นทางการ คือ สาขาฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิต และสาขาสีลมคอมเพล็กซ์ พร้อมวางแผนที่จะเปิด GWM Experience Center ณ ศูนย์การค้าไอคอนสยาม รวมถึง Flagship Service Center ในไตรมาส 3 นี้อีกด้วย
เชื่อว่าการเข้ามาของแบรนด์ยานยนต์อัจฉริยะ “เกรท วอลล์ มอเตอร์” นี้ จะเป็นปรากฎการณ์ที่คนชื่นชอบยานยนต์สมัยใหม่ จะต้องติดตาม เพื่อไม่ให้ตกเทรนด์แห่งอนาคตนี้อย่างแน่นอน
แหล่งข้อมูล
https://www.salika.co/2021/06/06/smart-factory-great-wall-motor-rayong-eec/