“กมธ. ดีอีเอส” ดูงานโดรน รปภ. “กัลยา” ชื่นชมเป็นผลงานคนไทย เล็งเชิญ “ปธ.สภาฯ-ตำรวจสภาฯ” ดูการสาธิตระบบป้องกันภัย อาจประยุกต์งานรปภ.รัฐสภาได้ “สยาม” หวังภาครัฐสนับสนุนยกระดับแข่งขันกับต่างประเทศ
เมื่อวันที่ 5 มี.ค.64 น.ส.กัลยา รุ่งวิจิตรชัย ส.ส.สระบุรี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการสื่อสาร การโทรคมนาคม และดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา คณะกรรมาธิการฯโดยตนเองพร้อมด้วย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ในฐานะประธานที่ปรึกษา กมธ. พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ในฐานะรองประธาน กมธ. นายสยาม หัตถสงเคราะห์ ส.ส.หนองบัวลำภู พรรคเพื่อไทย (พท.) รองประธาน กมธ. และ นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะรองประธาน กมธ. เดินทางไปยัง บริษัท ดิจิตอล รีเสิร์ช แอนด์ คอนซัลทิ่ง จำกัด เขตห้วยขวาง กทม. เพื่อศึกษาดูงานการพัฒนาเทคโนโลยีการป้องกันภัย จากการใช้เทคโนโลยีไร้สายควบคุมอุปกรณ์ ที่ก่อให้เกิดความเสียหาย
โดย น.ส.กัลยา กล่าวว่า การที่ กมธ.มาศึกษาดูงานที่บริษัทแห่งนี้ เพราะเป็นบริษัทที่ผลิตนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัย รวมทั้งยังเป็นบริษัทของคนไทย ที่สร้างผลิตภัณฑ์ขึ้นมาเองทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นฮาร์ดแวร์และซอฟแวร์ ซึ่งวันนี้เรามาดูการใช้อุปกรณ์ยิงคลื่นความถี่ เพื่อสกัดการบินของโดรน ไม่ให้เข้าไปยังเขตควบคุมหรือเขตหวงห้าม ซึ่งมีทั้งการตัดสัญญาณและยิงทำลายโดรน ถือว่าเป็นเทคโนโลยีที่น่าสนใจในการรักษาความปลอดภัยอย่างหนึ่ง ซึ่งในส่วนของการใช้โดรนนั้น ตอนนี้ถือว่ายังไม่ถูกกฎหมาย เพราะยังไม่มีกฎหมายควบคุม ทาง กมธ.กำลังศึกษาการบินและการทำงานขงโดรม เพื่อออกกฎหมายในการควบคุมการใช้งาน นอกจากนี้ที่นี่ยังมีนวัตกรรมต่างๆ เช่น ระบบการรักษาความปลอดภัยในรูปแบบที่ทันสมัย ซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ได้ เช่น บัตรเข้าออกที่สามารถระบุตัวตนของผู้ถือบัตรได้ มีเทคโนโลยีตรวจจับใบหน้า และยังสามารถสแกนอุณหภูมิได้ในครั้งเดียว
“บริษัทแห่งนี้เคยทำงานใหญ่มาหลายงานแล้ว ถือว่าน่าสนใจและเป็นบริษัทของคนไทยเอง ทาง กมธ. จะหารือกันว่า อาจจะเชิญ นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา รวมถึงผู้ใหญ่ในสภา จัดสัมมนาเอาเจ้าหน้าที่ ตำรวจรัฐสภา และผู้ที่เกี่ยวข้องมารับฟังการบรรยาย สาธิตการทำงานของอุปกรณ์ต่างๆที่เกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัย ซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์ต่อเจ้าหน้าที่ เพราะวันนี้เทคโนโลยีต่างๆพัฒนาไปไกล เราจึงควรนำสิ่งเหล่านี้มาช่วยงานในด้านรักษาความปลอดภัยให้กับรัฐสภา ที่เป็นสถานที่ราชการที่สำคัญของประเทศด้วย” น.ส.กัลยา กล่าว
ด้าน นายสยาม กล่าวว่า เจ้าของที่นี่เป็นคนไทยที่มีความสามารถ อุปกรณ์ต่างๆถือว่ามีคุณภาพที่ดีไม่แพ้บริษัทชั้นนำ ซึ่งเขาศึกษารูปแบบและความเหมาะสมเกี่ยวกับสภาพอากาศ และความต้องการให้สอดคล้องกับประเทศไทย ตนจึงคิดว่าภาครัฐน่าจะให้การสนับสนุนบริษัทแบบนี้ เป็นการสนับสนุนให้คนไทยสามารถเทคโนโลยีที่ทันสมัยสู้กับต่างชาติได้ และเมื่อเป็นของคนไทยเองเราก็จะมีอุปกรณ์ที่ราคาไม่แพงแต่ทันสมัยเทียบเท่านานาชาติไว้ใช้ และควรเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น รัฐสภา มหาดไทย หรือกลาโหม มาศึกษาดูงานที่นี่ เพื่อรับรู้ว่าเรามีบริษัทที่มีประสิทธิภาพในการผลิตอุปกรณ์ที่ทันสมัยขึ้นมาใช้งานได้เอง ไม่ต้องไปซื้อของราคาแพงจากต่างประเทศ เพราะทุกวันนี้เรานำเข้าสินค้าจากประเทศอื่นๆซึ่งบางครั้งอุปกรณ์และวัตถุดิบไม่สอดคล้องกับการใช้งานในประเทศทำให้ใช้ได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ