(3 ก.พ. 2564) นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.เห็นชอบแนวปฏิบัติจริยธรรมปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) เพื่อให้หน่วยงานราชการนำไปใช้เป็นแนวทางในการส่งเสริม สนับสนุน รวมถึงกำกับดูแลเทคโนโลยีเอไอให้มีความน่าเชื่อถือมั่นคงปลอดภัย และมีจริยธรรม โดยให้ทำออกมาในรูปแบบของบัญชีกิจกรรม ซึ่งจะกำหนดขอบเขตการดำเนินงานเรื่องต่างๆ เอาไว้ และนอกเหนือจากรัฐจะนำไปใช้แล้ว ยังให้ทุกๆองค์กรนำแนวปฏิบัติ จริยธรรมนี้ไปปรับใช้ตามความเหมาะสมของทรัพยากร และระบบการบริหารจัดการภายในองค์กรต่อไป
ทั้งนี้ กรอบแนวทางปฏิบัติ กำหนดให้ครอบคลุม 3 กลุ่ม คือผู้กำหนดระเบียบและกำกับดูแล เช่น ผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงาน หรือผู้จัดการโครงการต่างๆ, องค์กรวิจัย หรือนักวิจัย บริษัทที่ออกแบบและพัฒนาระบบ ผู้ให้บริการระบบเอไอกับผู้ใช้งาน และผู้ใช้งานผลิตภัณฑ์ หรือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากระบบเอไอ พร้อมกันนี้ยังกำหนดให้ทุกองค์กรจัดตั้งคณะกรรมการจริยธรรมเอไอขึ้นมา โดยมีทั้งผู้ที่ได้รับประโยชน์และผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเอไอ เพื่อกำหนดเป้าหมายระดับการปฏิบัติและกระบวนการทำงานในภาพรวม
วันเดียวกัน น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบให้ทบทวนมติ คณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 4 ก.ย.2561 โดยให้ยกเลิกการใช้เงินกองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจจำนวน 650 ล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการจัดตั้งสถาบันนวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการเงิน (Institute for Financial Innovation and Technology : InFinIT)
เนื่องจากในปัจจุบัน ภาครัฐ สถาบันการเงินของรัฐต่างๆ และภาคเอกชนมีบทบาทชัดเจนในการส่งเสริมวิสาหกิจเริ่มต้นในภาคการเงิน (FinTech Startups) และพัฒนาระบบนิเวศที่เอื้อต่อการพัฒนาและส่งเสริมอุตสาหกรรม การจัดตั้งสถาบัน InFinIT อาจมีความซ้ำซ้อนกับการดำเนินงานตามแนวทางการพัฒนาและส่งเสริมอุตสาหกรรม FinTech ที่ภาคส่วนต่างๆได้ดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน
แหล่งข้อมูลอ้างอิง
www.thairath.co.th/news/business/market-business/2025089