- เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ทำให้เรือฉลาดขึ้น สามารถควบคุมการเดินเรือ หลบหลีกสิ่งกีดขวางหรือเทียบท่าได้เอง
- มนุษย์ทำหน้าที่แค่เพียงคอยมอนิเตอร์และกำกับจากระยะไกลผ่านดาวเทียมเท่านั้น ช่วยลดต้นทุนบริหารเส้นทางและจัดการด้านพลังงานมีประสิทธิภาพขึ้น
- ล่าสุด เรือลำนี้ถูกขายให้เจ้าของรายใหม่ ที่มุ่งเน้นธุรกิจหลักในตลาดอาหารที่ยั่งยืนและแอมโมเนียสะอาด ขณะที่ทิศทางการพัฒนาเรือเดินสมุทรไร้ลูกเรือยังคงไม่แน่นอน
หลังเปิดตัวอย่างฮือฮาไปเมื่อปี 2020 ของ Yara Marine เรือบรรทุกสินค้าพลังงานไฟฟ้าซึ่งใช้ระบบอัตโนมัติลำแรกของโลก ใช้ระบบ AI ควบคุม โดยไม่ต้องใช้มนุษย์บนเรือแม้แต่คนเดียว
ตลอดระยะเวลากว่าสามปีที่ผ่านมา Yara Marine Technologies (YMT), Molflow, Chalmers University of Technology และผู้เชี่ยวชาญด้านสังคมศาสตร์จากมหาวิทยาลัย Halmstad และมหาวิทยาลัย Gothenburg ได้ทำงานร่วมกันเพื่อพัฒนาและทดสอบระบบการวางแผนการเดินทางกึ่งอัตโนมัติที่ใช้ AI โครงการ Via Kaizen ซึ่งเริ่มในเดือนสิงหาคม 2020 ศึกษาว่า AI จะสามารถช่วยให้วางแผนการเดินทางทางทะเลที่ประหยัดพลังงานมากขึ้นได้อย่างไร โดยได้รับทุนจากสำนักงานขนส่งแห่งสวีเดน และใช้ประโยชน์จากเครื่องมือที่มีอยู่แล้วเพื่อให้ได้ระดับดิจิทัลที่สูงขึ้น
โดยมี Yara Birkeland ซึ่งเป็น “เรือคอนเทนเนอร์ไฟฟ้าและขับเคลื่อนอัตโนมัติลำแรกของโลก” เป็นเหมือนเรือธงของแนวคิดการสร้างกองเรือบรรทุกสินค้าที่ไม่ต้องใช้มนุษย์ควบคุมบนเรือ
ซึ่งนอกจากจะลดต้นทุนการบริหารด้านบุคคลแล้ว การใช้ระบบอัตโนมัติจะทำให้สามารถบริหารการจัดการด้านพลังงาน และการใช้ประโยชน์จากพื้นที่ระวางบรรทุก และการบริหารเส้นทางเดินเรือมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ขึ้นแท่นเป็นเรือบรรทุกสินค้าแบบอัตโนมัติด้วย AI
Yara Birkeland ซึ่งเริ่มโครงการตั้งแต่ปี 2017 เดินเรือขนส่งสินค้าโดยอัตโนมัติเป็นระยะทาง 12 ไมล์ทะเลโดยใช้ท่าเรือสามแห่งทางตอนใต้ของนอร์เวย์ เรือลำนี้มีเซ็นเซอร์ เช่น กล้องอินฟราเรด LIDAR และเรดาร์เพื่อรวบรวมข้อมูลตำแหน่งที่ป้อนให้กับอัลกอริธึมอัตโนมัติ ซึ่งจะช่วยควบคุมและวางตำแหน่งเรือโดยอัตโนมัติ เรือยังติดตั้งระบบจอดเรืออัตโนมัติที่ทำให้สามารถเข้าเทียบท่าและออกจากท่าได้แม้จะไม่มีการควบคุมของมนุษย์ก็ตาม
ในตอนแรก Yara Birkeland จะมีลูกเรือ แต่จะเปลี่ยนไปใช้ระบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบทีละน้อย เมื่อรวมกับเส้นทางของเรือแล้ว ศูนย์ปฏิบัติการจะได้รับการติดตั้งสำหรับการจัดการเหตุฉุกเฉินระยะไกลและสนับสนุนกระบวนการตัดสินใจของ AI บนเรือ
YARA Birkeland สามารถขนส่งสินค้าที่ต้องใช้รถบรรทุกดีเซลประมาณ 100 คันต่อวันบนเส้นทางนี้ ทำให้สามารถลดการใช้งานรถบรรทุกถึง 40,000 เที่ยวทุกปีในระหว่างโครงการ ซึ่งมีส่วนช่วยอย่างมากในการลดการปล่อย NOx และ CO2 ลดความแออัด ปรับปรุงความปลอดภัยทางถนน และลดมลพิษทางเสียงอีกด้วย
ทิศทางเทคโนโลยีเดินเรือบรรทุกสินค้าแบบอัตโนมัติ
เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา Yara ได้ขายธุรกิจเทคโนโลยีทางทะเล Yara Marine Technologies ให้กับ Okapi Supply Trading Advisory ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม Okapi Energy ของสวิส-แอฟริกัน โดยไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดทางการเงินของข้อตกลงซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ใหม่ของบริษัท ที่มุ่งเน้นไปที่ธุรกิจหลักในตลาดอาหารที่ยั่งยืนและแอมโมเนียที่สะอาด ขณะที่ Okapi Supply Trading Advisory ก็ยังไม่มีท่าทีที่ชัดเจนว่า จะขับเคลื่อนเทคโนโลยีเดินเรือบรรทุกสินค้าแบบอัตโนมัติด้วย AI ต่อไปอย่างไร
ทิศทางของการพัฒนาเรือเดินสมุทรขนาดใหญ่ด้วยเทคโนโลยีขับเคลื่อนอัตโนมัติและ AI แม้จะยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่ก็ถูกจับตามองว่ามีความก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว จากพัฒนาการของเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง ทั้งระบบนำทางและออโตเมชั่นอื่นๆ เช่นกรณีที่ Promare ซึ่งเป็นองค์กรสำรวจและวิจัยทางทะเลที่มีฐานอยู่ในสหรัฐฯ ได้เริ่มดำเนินการสร้างเรือไร้คนขับข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกซึ่งขับโดย AI ของ IBM ด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ที่ขับเคลื่อนเรือเป็นหลัก เรือเมย์ฟลาวเวอร์อิสระ (MAS) จึงมีจุดมุ่งหมายเพื่อเดินทางที่คล้ายกันโดยเรือเมย์ฟลาวเวอร์ดั้งเดิมเมื่อประมาณ 400 ปีที่แล้ว รวมถึงเรือขนส่งสินค้า และเรือข้ามฟากที่ให้บริการในประเทศจีนและญี่ปุ่นจำนวนหนึ่ง
อุปสรรคการใช้เดินเรือบรรทุกสินค้าแบบอัตโนมัติด้วย AI
อย่างไรก็ตาม การนำเทคโนโลยีอัตโนมัติมาใช้กับการเดินเรือขนาดใหญ่ ยังมีข้อกังวลอยู่หลายด้าน โดยเฉพาะความเสถียรของระบบ ที่ยังคงต้องใช้มนุษย์ในการมอนิเตอร์และควบคุมระยะไกลผ่านดาวเทียมในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน รวมถึงยังเผชิญกับความเสี่ยงอื่นๆ ทั้งการโจมตีจากโจรสลัด หรือการรับผิดชอบทางกฎหมายระหว่างประเทศกรณีที่เกิดอุบัติเหตุที่ยังคงไม่ชัดเจน
ขณะนี้องค์การทางทะเลระหว่างประเทศ (IMO) กำลังพิจารณาปัญหาทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการเดินเรืออัตโนมัติในทะเล หวังว่าจะกำหนดแนวทางปฏิบัติเบื้องต้นได้ภายในปี 2028 โดยมีเป้าหมายเพื่อผลักดันให้มีการบังคับใช้ต่อไป แต่แนวคิดของผู้ที่เกี่ยวข้องส่วนใหญ่ ยังคงมองว่า เรือขนาดใหญ่จะต้องมีกัปตันหรือนายเรืออยู่ขณะออกปฏิบัติงานในทะเลด้วย
แหล่งข้อมูล