- ปัจจุบันเรากำลังใช้ทรัพยากรของโลกเพิ่มขึ้นประมาณ 60% ซึ่ง “เกิน” ความสามารถของโลก
- การรักษาสิ่งแวดล้อมเป็นสินค้าสาธารณะที่ไม่มีเจ้าของ การขับเคลื่อนเศรษฐกิจสีเขียว ส่งเสริมให้เกิดตลาด อาจเป็นแนวทางหนึ่งในการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม
- การสนับสนุนการแข่งขันการสื่อสารให้ความรู้หรือออกแนวปฏิบัติ ในเรื่องของ Green Agreement นำมาตรฐานมากีดกันในด้าน Green Cartel และการฟอกเขียว รวมถึงศึกษาติดตามและพิจารณาผลกระทบที่มีต่อการแข่งขันในด้านต่างๆ
มนยศ วรรธนะภูติ รองเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า กล่าวในงาน เวทีผู้นำ “Climate Action Leaders Forum รุ่น 3” หรือ CAL Forum #3 ว่า ปัจจุบันเรากำลังใช้ทรัพยากรของโลกเพิ่มขึ้นประมาณ 60% กว่าที่มันสามารถสร้างใหม่ได้ทุกปี ภายในปี 2050 ด้วยจำนวนประชากรโลกที่เพิ่มขึ้นและ ส่งผลให้การบริโภคเพิ่มขึ้น “เกิน” ความสามารถของโลก ซึ่งเห็นได้ชัดว่ายังไม่ยั่งยืนมากพอ
การส่งเสริมตลาดและพลวัตของการแข่งขันใน Green Economy
การรักษาสิ่งแวดล้อมเป็นสินค้าสาธารณะที่ไม่มีเจ้าของ การขับเคลื่อนเศรษฐกิจสีเขียว ส่งเสริมให้เกิดตลาด อาจเป็นแนวทางหนึ่งในการแก้ปัญหา คือ
1 โครงสร้างพื้นฐานมีต้นทุนสูง และอาจมีการผูกขาดโดยธรรมชาติ
2 ลักษณะธุรกิจ Green Economy มักจะมีความเชื่อมโยงระหว่างกัน
3 มีการตกลงความร่วมมือระหว่างกันในการพัฒนานวัตกรรม
4 เน้นรูปแบบธุรกิจใหม่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ซึ่งการสนับสนุน Green Economy ด้วยนโยบายแข่งขัน การกำกับการแข่งขันในตลาด Green Economy ผ่าน พ.ร.บ. การแข่งขันทางการค้า พ.ศ. 2560 ดังนี้
1 ป้องกันพฤติกรรม การกีดกันการแข่งขัน
2 ควบคุมการใช้อำนาจเหนือตลาดโดยมิชอบ
3 ดูแลการควบรวมกิจการ (M&A) ที่ส่งผลต่อโครงสร้างตลาด
4 ห้ามปฏิบัติทางการค้า
ทั้งนี้การสนับสนุนในเรื่องของการกำกับตลาดให้มีการแข่งขันที่เหมาะสม เพื่อกระตุ้นให้เกิดการลงทุน ในการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อสนับสนุน Green Economy และพัฒนาไปสู่นวัตกรรมที่ดีขึ้น และมีราคาลดลง (Productive Efficiency) นอกจากนี้ยังก่อให้เกิดประสิทธิภาพในเชิงพลวัต (Dynamic Efficiency) และการส่งเสริมนวัตกรรม และธุรกิจรูปแบบใหม่ อย่าง Up Cycling การยืดอายุผลิตภัณฑ์ การแบ่งปันทรัพยากรและสินค้าที่เป็นแบบบริการ
นโยบายรัฐในการส่งเสริม Green Economy
สำนักงานการแข่งขันทางการค้า ยังมีบทบาทในการตรวจสอบและให้ความเห็นนโยบายรัฐในการส่งเสริม Green Economy ว่าจะไม่เป็นการขัดขวางหรือกีดกันการแข่งขัน หรือการกีดกันมิให้เกิดนวัตกรรม ดังนี้
1 ศึกษาติดตาม (Market Monitoring) พฤติกรรมการประกอบธุรกิจ
2 ความร่วมมือระหว่างธุรกิจ (Pro-competitive Collaboration VS Green Cartels)
3 การสร้างมาตรฐาน (Green Agreement VS Anti-Competitive)
4 ป้องกันการควบรวมกิจการ (Merger Control)
ในกรณีการควบรวมธุรกิจ ต้องพิจารณาทฤษฎีความเสียหาย (Theories of Harm) ที่อาจเกิดขึ้น เพื่อมิให้การรวมธุรกิจทำให้การแข่งขันน้อยลง ดังนี้
1 ผลกระทบฝ่ายเดียวในผลิตภัณฑ์ที่แตกต่าง
2 เพิ่มอำนาจผู้ซื้อ
3 ผลกระทบของนวัตกรรมฝ่ายเดียว
4 การได้มาของ Green Killer 5.Vertical Effects
สนับสนุนการแข่งขันการสื่อสารให้ความรู้
ทั้งนี้การสนับสนุนการแข่งขันการสื่อสารให้ความรู้หรือออกแนวปฏิบัติ ในเรื่องของ Green Agreement นำมาตรฐานมากีดกันในด้าน Green Cartel และการฟอกเขียว รวมถึงศึกษาติดตาม และพิจารณาผลกระทบที่มีต่อการแข่งขันในด้านต่างๆ ในด้านต่างๆเช่น
1 ผลประโยชน์ของผู้บริโภค
2 ความจำเป็นในการสร้างประโยชน์
3 ผลกระทบทางบวก
4 การแข่งขันในตลาดที่มีการแข่งขันสูง
โดยในอนาคตจะมีการส่งเสริมนวัตกรรมและการพัฒนาเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้เกิดการแข่งขันในตลาดสีเขียวการส่งเสริมการแข่งขันในตลาด รวมถึงการสร้างความโปร่งใสและเปิดเผยข้อมูลในตลาด ป้องกันพฤติกรรมฟอกเขียว ส่งเสริมความร่วมมือในการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมให้มีมาตรการจูงใจ รวมทั้งมีนโยบายจากภาครัฐที่ส่งเสริมสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน
ดังนั้น ทิศทางการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวผู้ทำธุรกิจไม่ว่าจะเป็นรายใหญ่หรือ SME ก็ควรเร่งปรับตัว ซึ่งบทบาทของภาครัฐทำหน้าที่สนับสนุนเพื่อให้การเปลี่ยนแปลงที่ว่านี้ไม่ใช่ความท้าทายแต่จะกลายเป็นโอกาสทางการค้าใหม่ของไทยต่อไป
แหล่งข้อมูล