จีนออกแนวปฏิบัติด้านความปลอดภัย สำหรับการใช้รถยนต์ไร้คนขับในการขนส่งสาธารณะ ซึ่งเป็นมาตรการล่าสุดเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการใช้รถยนต์ไร้คนขับที่เพิ่มขึ้น
จีน ออกแนวทางปฏิบัติด้านความปลอดภัย สำหรับรถยนต์ไร้คนขับที่จะให้บริการสาธารณะ เช่น แท็กซี่ไร้คนขับ รวมถึงรถส่งของไร้คนขับด้วย แนวปฏิบัตินี้ครอบคลุมยานพาหนะที่มีระบบอัตโนมัติในระดับต่าง ๆ และข้อบังคับที่ยานพาหนะต้องมีคนขับหรือผู้ตรวจสอบความปลอดภัยอย่างน้อยหนึ่งคนโดยสารอยู่ด้วย
ในแนวทางปฏิบัติด้านความปลอดภัย สำหรับรถยนต์ไร้คนขับ ของจีน ยังกำหนดให้บริษัทต่าง ๆ ที่ใช้ยานพาหนะไร้คนขับสำหรับการขนส่งสาธารณะต้องได้รับใบอนุญาต และคุณสมบัติต่าง ๆ ที่รัฐกำหนด เช่น ร่วมมือกับบริษัทอื่น ๆ พัฒนาระบบ หรือ รถสามารถวิ่งบนท้องถนนกับรถยนต์ไร้คนขับของยี่ห้ออื่น ๆ ได้อย่างปลอดภัย
การออกแนวทางปฏิบัติสำหรับรถยนต์ไร้คนขับของจีน เกิดขึ้นหลังจากผู้พัฒนาเทคโนโลยีหลายรายเริ่มพัฒนา เทคโนโลยียานพาหนะอัจฉริยะบนท้องถนนมากขึ้นและขอทดลองในถนนจริงตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา จึงทำให้รัฐบาลจีนต้องออกแนวทางปฏิบัติเพื่อให้พัฒนาไปในทิศทางเดียวกันและป้องกันอุบัติเหตุพื้นฐานที่อาจเกิดขึ้น
“แนวปฏิบัตินี้ สามารถเร่งการนำเทคโนโลยีการขับขี่แบบอัตโนมัติ มาใช้ในประเทศจีนได้อย่างรวดเร็ว ด้วยแนวทางปฏิบัติที่จริงจังมากขึ้นโดยการควบคุมผู้ผลิตรถยนต์” Xue Jiancong ประธานหน่วยนวัตกรรมของบริษัทโลจิสติกส์ของจีน FOR-U Smart Freight กล่าว
“หน่วยงานกำกับดูแลของจีนไม่เหมือนกับคู่แข่งในสหรัฐฯ ตรงที่พวกเขาไม่ได้ติดตามนักพัฒนาซอฟต์แวร์โดยตรง แต่หันไปโฟกัสที่ค่ายรถยนต์มากกว่า” Xue กล่าวเสริม
จีนนับเป็นตลาดรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง และได้จัดทำแผนมาตรฐานและข้อบังคับสำหรับการขับขี่แบบอัตโนมัติ โดยมีเป้าหมายเพื่อกำหนดระบบที่จะสนับสนุนฟังก์ชันช่วยเหลือการขับขี่และการขับขี่อัตโนมัติ ภายในปี 2568 รวมถึงแนะนำมาตรฐานที่จะสนับสนุนการพัฒนาแอปพลิเคชันสำหรับรถที่จะขับขี่อัตโนมัติ และสร้างระบบรับประกันความปลอดภัยภายในปี 2573
รัฐบาลจีน กล่าวเมื่อเดือนที่แล้วว่า จะอนุญาตให้มีการทดลองใช้ยานพาหนะอัจฉริยะบนท้องถนนได้ ในเดือนตุลาคม และได้ออกแนวปฏิบัติสำหรับสิ่งอำนวยความสะดวก ด้านวิศวกรรม บนทางหลวงเพื่อรองรับเทคโนโลยีการขับขี่แบบอัตโนมัติแล้ว ขณะที่ ในเดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมา ก็ได้ออกแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการกำหนดมาตรฐานของยานพาหนะอัจฉริยะที่จะเชื่อมต่อผ่านอินเทอร์เน็ตด้วย
ยานยนต์ไร้คนขับในอนาคตจะเปลี่ยนแปลงจากระบบที่ประมวลผลภายในตัวรถ เป็นการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความหน่วงต่ำ เช่น 5G แล้วส่งข้อมูลให้เซิร์ฟเวอร์กลางประมวลผลร่วมกับข้อมูลจากกล้องและเซ็นเซอร์บนถนน เพื่อทำการเคลื่อนที่ไปในที่ต่าง ๆ
แหล่งข้อมูล
