ใช้ชีวิตแบบโลว์คาร์บอนกับ Ecocapsule NextGen บ้านจิ๋วรักษ์โลก

Loading

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีความสนใจในบ้านจิ๋วหรือ Micro home เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะแม้ว่าจะมีขนาดเล็ก แต่พื้นที่อยู่อาศัยขนาดกะทัดรัดเหล่านี้ที่มีคุณสมบัติเคลื่อนที่ได้ด้วย ก็น่าดึงดูดใจสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเดินทาง ผู้ที่ต้องการใช้ชีวิตนอกระบบ รวมถึงผู้ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมที่ต้องการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนด้วยการใช้ชีวิตแบบคาร์บอนต่ำหรือโลว์คาร์บอน

ล่าสุด Ecocapsule ผู้พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่อยู่อาศัยที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ โดดเด่นด้วยการออกแบบรูปทรงไข่อันเป็นเอกลักษณ์และความยั่งยืน ได้วางแผนเปิดตัวบ้านจิ๋วรักษ์โลกเวอร์ชันใหม่ที่เรียกว่า NextGen

บ้านหลังเล็กๆ เหล่านี้มีการออกแบบในลักษณะแคปซูลรูปทรงไข่เช่นเดียวกับรุ่นก่อนๆ ของ Ecocapsule แต่ออกแบบของ NextGen มีความแตกต่างที่สำคัญบางประการ ประการแรก บ้านเหล่านี้มีขนาดใหญ่กว่าเดิมเล็กน้อย โดยมีความยาว 5.18 เมตร ฟุต แทนที่จะเป็น 4.57 เมตร

นอกจากนี้ภายในยังได้รับการจัดวางใหม่เพื่อความสะดวกสบายยิ่งขึ้น โดยผู้ที่พักในที่พักเหล่านี้สามารถเลือกได้ว่าจะใช้โซฟาในห้องนั่งเล่นหรือเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์เป็นเตียงคู่แบบพับได้ และมีโต๊ะแบบพับเก็บได้สำหรับรับประทานอาหารและทำงาน NextGen ยังมีพื้นที่จัดเก็บเพิ่มเติมบนผนังของแคปซูล ทำให้มีพื้นที่สำหรับผู้อยู่อาศัยมากขึ้น

“เรารู้สึกตื่นเต้นที่ Ecocapsule ดึงดูดลูกค้าจำนวนมาก จนสามารถจำหน่ายผลิตภัณฑ์รุ่นแรกหมดแล้ว และด้วยคำติชมของพวกเขา เราจึงมีโอกาสที่จะทำงานกับคนรุ่นใหม่และก้าวนำหน้าคู่แข่ง นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่สุดในการออกแบบผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ของเรา นั่นคือการติดตั้งหน้าต่างแบบพาโนรามาขนาดใหญ่ ซึ่งจะทำให้ผู้คนใกล้ชิดกับธรรมชาติมากยิ่งขึ้น โดยหน้าต่างและประตูทางเข้าที่เล็กกว่าในรุ่นปัจจุบันจะถูกแทนที่ด้วยหน้าต่างที่ใหญ่กว่าซึ่งรวมเข้ากับประตูทางเข้า ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการผลิตและการประกอบลงอย่างมาก รวมถึงการบำรุงรักษา” Tomáš Žáček สถาปนิกและผู้ร่วมก่อตั้ง Ecocapsule กล่าว

บ้าน NextGen ของ Ecocapsules ทุกหลัง มีแผงโซลาร์เซลล์และกังหันลมเพื่อให้พึ่งพาตนเองได้สำหรับการใช้ชีวิตนอกระบบ โดยใช้ระบบแผงโซลาร์เซลล์ที่ใหญ่ขึ้นเพื่อช่วยผลิตไฟฟ้าได้มากขึ้น และแม้จะมีขนาดกะทัดรัด แต่ภายในมีโซฟาที่สามารถดึงออกเป็นเตียงคู่ได้ รวมถึงพื้นที่เก็บของเพิ่มเติม ขณะเดียวกันก็ยังมีหน้าต่างเพิ่มเติมด้วย ขณะที่โครงสร้างเหล็กจะถูกย่อให้เหลือน้อยที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่ของน้ำหนัก สะพานระบายความร้อน และต้นทุนการผลิต ส่วนตัวตู้จะใช้วัสดุที่เบากว่าเพื่อลดน้ำหนักโดยรวมของ Ecocapsule และจะมีการสำรวจวัสดุทางเลือกแทนพลาสติกเพื่อมุ่งสู่เฟอร์นิเจอร์ที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพ ทั้งยังประกอบได้ง่ายกว่ารุ่นก่อนหน้าและบำรุงรักษาง่ายขึ้นด้วย โดยหวังว่าจะสร้างแรงดูดใจที่เพียงพอต่อกลุ่มเป้าหมาย และถึงจะไม่มีล้อ แต่ก็สามารถวางในตำแหน่งต่างๆ ได้โดยใช้รถพ่วงหรือรถบรรทุก ซึ่งจากการที่น้ำหนักของ NextGen ลดลง จะเป็นการเพิ่มความสามารถในการขนส่ง เนื่องจากการเคลื่อนย้ายเป็นหนึ่งในคุณลักษณะสำคัญของผลิตภัณฑ์นี้ (Ecocapsule ไม่ต้องการใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร แต่อาจต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของที่ดินหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขึ้นอยู่กับสถานที่ที่เลือกติดตั้ง จึงต้องตรวจสอบกับหน่วยงานท้องถิ่นและ/หรือตรวจสอบกฎระเบียบของประเทศนั้นๆ)

นอกจากนี้ แยกระบบออกจากภายใน โดยจะมีช่องระบบสองช่อง ช่องหนึ่งจะมีไว้สำหรับระบบน้ำและหน่วยแลกเปลี่ยนความร้อนโดยเฉพาะ ในขณะที่อีกช่องหนึ่งจะมีตัวจ่ายไฟฟ้าและแบตเตอรี่ ส่วนพื้นด้านล่างและตัวเครื่องที่ยาวขึ้นของ Ecocapsule รุ่นใหม่นี้ จะทำให้มีพื้นที่จัดเก็บมากขึ้นอย่างน้อย 550 ลิตร

สำหรับการผลิตบ้านจิ๋วนี้คาดว่าจะเริ่มในกลางปี 2567 และยังไม่เปิดเผยราคา (รุ่นแรกจำหน่ายในราคา 99,900 ยูโร ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือราว 3.85 ล้านบาท) สำหรับใครที่สนใจเรียนรู้วิธีสั่งซื้อได้จากเว็บไซต์ของ Ecocapsule

ทั้งนี้ Ecocapsule สตาร์ทอัพดาวรุ่งจากสโลวาเกีย เป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ที่อยู่อาศัยขนาดเล็กที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม ช่วยให้สามารถใช้ชีวิตในสถานที่ห่างไกลห่างไกลจากโครงสร้างพื้นฐาน ด้วยวิธีการออกแบบเพื่อการใช้ชีวิตอย่างอิสระจึงสามารถใช้เป็นกระท่อม โรงแรมป๊อปอัพ สำนักงานเคลื่อนที่ สถานีวิจัย หรืออะไรก็ได้ตามแต่ที่ผู้ใช้งานต้องการให้เป็น ด้วยการออกแบบผลิตภัณฑ์นี้ตั้งแต่เริ่มต้นเพื่อให้มีความพอเพียง ใช้งานได้จริง และใช้งานได้ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

Ecocapsule ต้องการสร้างโอกาสสำหรับชีวิตเชิงนิเวศน์ ไม่จำเป็นต้องเสียบปลั๊กเข้ากับแหล่งจ่ายไฟและน้ำแบบเดิม เนื่องจากสามารถพึ่งพาตนเองได้และสามารถสร้างทรัพยากรทั้งสองจากสภาพแวดล้อมโดยรอบได้

บ้านเคลื่อนที่ขนาดกะทัดรัดนี้จะช่วยให้สามารถใช้ชีวิตแบบนอกเครือข่ายหรือนอกระบบได้ภายใต้เงื่อนไขเฉพาะและในสภาพแวดล้อมเฉพาะ โดยได้รับการออกแบบมาเพื่อการใช้ชีวิตนอกระบบระยะกลาง สำหรับ 1–2 คน (ขึ้นอยู่กับสภาพทางภูมิศาสตร์และท้องถิ่นต่างๆ โดยจะมีคู่มือผู้ใช้ที่ชัดเจนให้)

ด้วยรูปร่างที่เป็นเอกลักษณ์ของ Ecocapsule ไม่เพียงแต่ช่วยลดการสูญเสียความร้อนเท่านั้น แต่ยังช่วยในการกักเก็บน้ำด้วย กล่าวคือเมื่อฝนตก น้ำฝนจะถูกรวบรวมไว้บนพื้นผิว และจะถูกรวบรวมไปยังถังเก็บน้ำและกรองไว้เพื่อบริโภคได้ ขณะที่กังหันลมเสียงรบกวนต่ำให้กำลังสูงถึง 750W ทั้งกลางวันและกลางคืน เสายืดไสลด์ที่ใช้วางกังหันสามารถพับเก็บได้ง่ายเพื่อการขนส่งที่ราบรื่น กังหันลมนี้สามารถผลิตไฟฟ้าได้ตลอด 24 ชั่วโมงต่อวัน

ทำไมการใช้ชีวิตแบบ “โลว์คาร์บอน” จึงมีความสำคัญในอนาคต?

การดำรงชีวิตแบบคาร์บอนต่ำถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งต่ออนาคตเนื่องมาจากสาเหตุหลายประการที่เชื่อมโยงถึงกัน ดังต่อไปนี้

การบรรเทาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หนึ่งในความท้าทายระดับโลกที่เร่งด่วนที่สุดก็คือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เช่น คาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ออกสู่ชั้นบรรยากาศ การใช้ชีวิตแบบคาร์บอนต่ำช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเหล่านี้โดยการใช้พลังงานและทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

การอนุรักษ์ทรัพยากร การดำรงชีวิตแบบคาร์บอนต่ำส่งเสริมการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น พลังงาน น้ำ และวัสดุธรรมชาติอื่นๆ ในขณะที่ประชากรโลกยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องจนทะลุ 8,000 ล้านคน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ความต้องการทรัพยากรเหล่านี้ก็ยิ่งเพิ่มขึ้น ทำให้จำเป็นต้องใช้อย่างระมัดระวังหรือลดการใช้ให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่ออนุรักษ์ไว้สำหรับคนรุ่นต่อไปด้วย

ความมั่นคงด้านพลังงาน การลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนมักเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนมาใช้พลังงานหมุนเวียน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ ลม และไฟฟ้าพลังน้ำ การเปลี่ยนแปลงนี้ช่วยเพิ่มความมั่นคงด้านพลังงานโดยการลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลซึ่งขึ้นอยู่กับความผันผวนของราคาและความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่น่าหวั่นวิตกมากขึ้นทุกวัน

ประโยชน์ต่อสุขภาพ การดำรงชีวิตแบบโลว์คาร์บอนมักจะนำไปสู่อากาศและน้ำที่สะอาดขึ้น ซึ่งอาจมีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างมาก ตัวอย่างเช่น มลพิษทางอากาศที่ลดล งสามารถลดอัตราโรคทางเดินหายใจและปรับปรุงความเป็นอยู่และคุณภาพชีวิตโดยรวมได้

โอกาสทางเศรษฐกิจ การเปลี่ยนแปลงไปสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำสร้างโอกาสใหม่ๆ สำหรับนวัตกรรม การสร้างงาน และการเติบโตทางเศรษฐกิจ จึงคาดว่าอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับพลังงานหมุนเวียน ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน และเทคโนโลยีที่ยั่งยืน จะเติบโตต่อไปในอนาคต

แรงกดดันด้านกฎระเบียบ รัฐบาลทั่วโลกกำลังดำเนินนโยบายและกฎระเบียบที่มุ่งลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน บุคคลและธุรกิจที่เริ่มนำแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับคาร์บอนต่ำมาใช้จะก้าวสู่การเปลี่ยนแปลงได้อย่างราบรื่นกว่า เมื่อถึงเวลาบังคับใช้ก็สามารถปฏิบัติตามกฎระเบียบเหล่านี้ได้ทันที จึงหลีกเลี่ยงบทลงโทษที่อาจเกิดขึ้นได้

ความสามารถในการฟื้นตัวของชุมชนต่อสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป การดำรงชีวิตแบบโลว์คาร์บอนมีส่วนช่วยสร้างชุมชนที่มีความยืดหยุ่นต่อสภาพภูมิอากาศ ด้วยการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ชุมชนจึงมีความพร้อมที่ดีขึ้นในการปรับตัวให้เข้ากับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงและทนต่อเหตุการณ์สภาพอากาศที่รุนแรง

ความร่วมมือระดับโลก การจัดการกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจำเป็นต้องได้รับความร่วมมือระหว่างประเทศ แนวทางปฏิบัติในการดำรงชีวิตแบบคาร์บอนต่ำแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นต่ออนาคตที่ยั่งยืนและเท่าเทียมกัน โดยส่งเสริมความร่วมมือระหว่างนานาชาติ เพื่อบรรลุเป้าหมายร่วมกัน

การดูแลสิ่งแวดล้อม การใช้ชีวิตแบบคาร์บอนต่ำเป็นหนทางหนึ่งในการเป็นผู้ดูแลโลกอย่างมีความรับผิดชอบ สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการรักษาความหลากหลายทางชีวภาพ ระบบนิเวศ และธรรมชาติ สำหรับคนรุ่นปัจจุบันและอนาคต

แหล่งข้อมูล

https://www.salika.co/2023/10/05/low-carbon-living-ecocapule-nextgen/


Smart City Thailand : 02 054 7755
Contact us : thunya.b@gmail.com | thunya@securitysystems.in.th

© smartcitythailand 11 โกสุมรวมใจ ดอนเมือง กรุงเทพมหานคร 10210