ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการ สวทช. ได้บรรยายพิเศษในงานไทยแลนด์ เทคโชว์ ว่าด้วย 10 เทคโนโลยีที่น่าจับตามอง และคาดว่าจะเป็นเทคโนโลยีที่มีอิทธิพลต่อการดำเนินธุรกิจและการดำเนินชีวิตวิถีใหม่ในอีก 3-5 ปีข้างหน้า ซึ่งเทคโนโลยีที่น่าจับตามองทั้ง 10 ประเภท มีดังนี้
1. โควิด-19
ซึ่งถือเป็นสิ่งที่มีความสำคัญเร่งด่วนในการแก้ปัญหา เพราะเป็นโรคระบาดที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลก โดยหลัก ๆ จะมีอยู่ 3 เรื่องคือ การสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ การพัฒนายารักษาโรคโควิด-19 และการพัฒนาวัคซีน ซึ่งเทคโนโลยีดังกล่าวนี้กำลังเป็นที่ต้องการ และมีความจำเป็นสำหรับการดำเนินชีวิตเป็นอย่างยิ่ง
2. ผู้สูงอายุ
อย่างที่ทราบกันดีว่าโลกกำลังจะก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุในอีกไม่ช้านี้ ซึ่งเทคโนโลยีชะลอความชรา ถือเป็นเทคโนโลยีที่จะมีความสำคัญอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะนอกจากจะเป็นเทคโนโลยีในลักษณะที่ช่วยให้มนุษย์มีชีวิตที่ยืนยาวแล้ว ยังเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้ผู้สูงอายุสามารถที่จะดำเนินชีวิตได้อย่างมีความสุข
3.IoT
ปัจจุบันเมื่อเทคโนโลยีต่าง ๆ พัฒนาไปอย่างเป็นพลวัต ซึ่งจะมีการเชื่อมโยงสัมพันธ์และหนุนเสริมกันและกัน เพื่อให้สามารถนำมาใช้งานได้อย่างตอบโจทย์ความต้องการของการดำรงชีวิตยุคใหม่ ซึ่ง Internet of Things หรือ IoT จึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ และจะยิ่งทวีความสำคัญมากขึ้นเรื่อย ๆ
4. ชิปสายพันธุ์ใหม่
สำหรับการพัฒนาชิปคอมพิวเตอร์ถือว่ามีความพยายามอย่างต่อเนื่อง เพื่อที่จะให้ได้ประสิทธิภาพการประมวลผล ที่สามารถทำงานได้รวดเร็วเหมือนกับสมองของมนุษย์ ซึ่งเทคโนโลยีนี้จะทำให้คอมพิวเตอร์สามารถที่จะเข้ามาทำงานช่วยมนุษย์ได้อย่างหลากหลายมากยิ่งขึ้น
5. การสื่อสารด้วยภาพ
เมื่อคอมพิวเตอร์มีชิปที่สามารถทำงานได้ใกล้เคียงกับสมองของมนุษย์ ก็จะทำให้มีความสามารถอีกอย่างหนึ่งที่คล้ายกับมนุษย์นั้นก็คือ Vision Communication หรือ “การสื่อสารด้วยภาพ” ซึ่งถือเป็นการสื่อสารที่เกิดขึ้นจากเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งปัจจุบันได้เริ่มมีการนำเอาเทคโนโลยี Vision Communication ไปใช้ในการสร้างภาพยนตร์ เช่น ในจีนมีการสร้างตัว avatar ของผู้ประกาศข่าวหรือผู้ประกาศข่าวเสมือนอ่านข่าวแทนผู้ประกาศข่าวตัวจริง
6. ขวดพลาสติกจากพืช
เรื่องของปัญหาขยะพลาสติกถือเป็นปัญหาใหญ่ของโลกในยุคนี้เลยก็ว่าได้ เนื่องจากทำให้เกิดมลภาวะทางด้านสิ่งแวดล้อม และก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน ซึ่งเทคโนโลยีทางเลือกที่สามารถนำเอาวัสดุที่สามารถย่อยสลายได้ จะถือเป็นเทคโนโลยีที่เหมาะสมที่สุดในการ
7. การออกแบบโครงสร้างวัสดุชนิดเดียว
สำหรับปัญหาพลาสติกถือเป็นปัญหาที่มีความพยายามในการแก้ไขกันในทุกภาคส่วน ซึ่งผลิตภัณฑ์พลาสติกที่สามารถนำกลับมาใช้ประโยชน์หรือรีไซเคิลได้ง่าย จะต้องมีการผลิตที่เอื้อต่อการคัดแยก และนำกลับมาใช้ใหม่ แต่ทว่าในปัจจุบันบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่ใช้อยู่นั้น จะเป็นพลาสติกแบบ multilayer materials ซึ่งเป็นการนำเอาวัสดุหลายชนิดมาเรียงซ้อนกัน ซึ่งทำให้คัดแยกยากและนำกลับไปรีไซเคิลได้น้อยมาก เช่น ซองขนมขบเคี้ยว ซองบรรจุภัณฑ์
8. วัสดุนาโนคาร์บอนจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ที่เพิ่มสูงขึ้นในชั้นบรรยากาศ ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้เกิดภาวะโลกร้อน จึงทำให้เกิดแนวคิดที่จะนำ CO2 กลับมาเปลี่ยนรูปให้เป็นวัสดุอื่นที่มีประโยชน์ เพื่อลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งจะส่งผลให้ลดปัจจัยก่อสภาวะโลกร้อนได้
9. แบตเตอรี่ปลอดภัยไร้ลิเทียม
เมื่อไม่นานมานี้ได้มีการเปิดเผยถึงความสำเร็จของกองทัพอเมริกาในการวิจัยแบตเตอรี่ซิงก์ไอออนแบบใหม่ที่ใช้น้ำเกลือเป็นอิเล็กโทรไลต์ ซึ่งมีจุดเด่นคือการเก็บพลังงานได้สูง และมีความหนาแน่นของพลังงานเทียบเท่ากับแบตเตอรี่แบบลิเทียมไอออนแบบปัจจุบัน แต่มีต้นทุนถูกกว่าประมาณ 3 เท่า ซึ่งแบตเตอรี่ที่ไม่มีลิเทียมนั้นจะมีข้อดีหลายอย่าง เช่น มีความปลอดภัย ไม่ทำปฏิกิริยากับอากาศและติดไฟหรือระเบิด จึงสามารถขนส่งทางอากาศได้ ซึ่งตอบโจทย์ในด้านความปลอดภัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
10.กรีนไฮโดรเจน
กระแสของพลังงานสะอาดถือเป็นสิ่งที่หลาย ๆ ประเทศต่างมุ่งมั่นที่จะพัฒนา เพื่อให้ได้ระบบการผลิตพลังงานสะอาดที่สามารถผลิตพลังงานและแจกจ่ายจากต้นทางไปจนถึงปลายทางโดยไม่ก่อมลภาวะ เช่น การเลือกใช้พลังงานจากแหล่งพลังงานสะอาดเช่นแสงอาทิตย์ ลม และใช้กระบวนการอิเล็กโทรไลซิส ซึ่งไม่มีการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
และทั้งหมดนี้คือ 10 เทคโนโลยีที่ต้องจับตามองใน 3-5 ปีข้างหน้า ซึ่งถือเป็นเทคโนโลยีที่มีแนวโน้มและสร้างโอกาสใหม่ ๆ ทางธุรกิจได้ รวมถึงยังเป็นเทคโนโลยีที่จะช่วยให้การดำเนินชีวิตวิถีใหม่เป็นไปอย่างราบรื่นและยั่งยืนในอนาคตอีกด้วย
เรียบเรียงโดย
Smart City Thailand
แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม
www.nstda.or.th
เครดิตรูปภาพ
www.bucketlistly.blog
www.pexels.com
unsplash.com