Yoti แฉ Onlyfake! ใช้ AI ปลอมดิจิทัลไอดี บัตรประชาชน ใบขับขี่ พาสปอร์ต ทำได้หมด

Loading

  • โยติ (Yoti) แฉ Onlyfake ซึ่งใช้เทคโนโลยีแชทบอทเพื่อสร้างข้อมูลส่วนตัวแบบปลอม ๆ โดยสามารถปลอมแปลงได้วันละ 20,000 ไอดี ขายราคา 15 ปอนด์
  • ในราคานี้ ผู้ซื้อจะได้ใบขับขี่ในสหรัฐฯ รูปถ่าย ชื่อ ประวัติ ที่อยู่ วันหมดอายุ พร้อมลายเซ็น
  • อังกฤษเตือน! ให้คัดกรองระบบยืนยันตัวตนให้ละเอียด โดยเฉพาะธุรกรรมการเงิน หรือพาสปอร์ต

AI จะยึดครองมนุษย์หรือไม่นั้น คงเป็นเรื่องของอนาคต แต่ตอนนี้ มีคนลักไก่ใช้ AI ปั่นป่วนระบบยืนยันตัวตน หรือการทำธุรกรรมทางออนไลน์แล้ว มีค่าธรรมเนียม 12 ปอนด์ ลูกค้าส่วนใหญ่อายุต่ำกว่า 18 ปี

การแฉในครั้งนี้นำโดย “โยติ” (Yoti) บริษัทเทคฯ ในสหราชอาณาจักร ให้บริการเทคโนโลยีตรวจจับใบหน้า และระบบพิสูจน์ตัวตน ซึ่งถูกติดตั้งอยู่ทั่วไปในซูเปอร์มาร์เก็ตดัง ๆ หลายแห่ง อาทิ เทสโก้ แอสดา และมอร์ริสัน เพื่อป้องกันคนที่อายุไม่ถึง 18 ปี ลักลอบซื้อเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์

Onlyfake บริษัทใช้ AI ปลอม ID ขาย

โยติยกชื่อของบริษัทใต้ดินชื่อ Onlyfake ซึ่งใช้เทคโนโลยีแชทบอทเพื่อสร้างข้อมูลส่วนตัวแบบปลอม ๆ ด้วย AI ที่ว่ากันว่ามีแม่นยำสูง เว็บไซต์ Daily Mail ระบุว่า Onlyfake สามารถปลอมแปลงได้วันละ 20,000 ID แถม ID ปลอม 1 ชิ้นใช้เวลาทำแค่หลักวินาทีเท่านั้น

โยติเผยว่าตัวตนดิจิทัลที่บริษัทนี้ปลอมแปลงขึ้นแนบเนียนจนสามารถผ่านระบบพิสูจน์ตัวตนของซูเปอร์มาร์เก็ต เวลาซื้อของออนไลน์ หรือแม้กระทั่งการทำธุรกรรมการเงิน ซึ่งทั้งหมดนี้ ผู้ใช้บริการต้องจ่ายในราคา 12 ปอนด์ หรือประมาณ 550 บาท

ในราคานี้ คุณจะได้ใบขับขี่ในสหรัฐฯ รูปถ่าย ชื่อ ประวัติ ที่อยู่ วันหมดอายุ พร้อมลายเซ็น ว่าง่าย ๆ ก็คือ Onlyfake จะจัดหาข้อมูลปลอมที่ใช้ได้จริงให้กับคุณ เรื่องนี้จึงทำให้อังกฤษตื่นตัวอย่างมาก

Red Alert! ตื่นตัว พร้อมหาวิธีรับมือ

ส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่า ขืนปล่อยไว้แบบนี้ อันตรายแน่ ๆ เพราะหากมีการทำธุรกรรม จะไม่สามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ เพราะมันไม่มีตัวตนในระบบตั้งแต่แรก รวมถึงสามารถรังสรรค์ภาพเซลฟี่ เหมือนกับเจ้าตัวยกมือถือขึ้นมาถ่ายเองจริง ๆ

Suid Adeyanju ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์RiverSafe ให้ทัศนะถึงประเด็นดังกล่าวไว้ว่า “Generative AI ทำให้การฉ้อโกงง่ายกว่าเดิม แต่ดูเหมือนว่าหลาย ๆ องค์กรไม่ได้เตรียมตัวรับมือกับมัน”

“AI จะกลายเป็นอาวุธร้ายทันที เมื่ออยู่ในมือของคนโกง ซึ่งอาจนำไปสู่อาชญกรรม การปลอมแปลงเอกสาร ธุรกรรม บัตรประชาชน ใบขับขี่ รวมถึงพาสปอร์ต”

ทั้งนี้ มีการออกเตือนสถานที่ต่าง ๆ ที่ต้องใช้ระบบการยืนยันตัวตน ให้เข้มงวดกับการตรวจสอบมากยิ่งขึ้น เช่น สนามบิน ธนาคาร แต่ในกรณีของซูเปอร์มาร์เก็ตในอังกฤษที่เป็นระบบตรวจจับใบหน้า ยังไม่สามารถแก้ไขได้ในทันที จึงเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องพัฒนาต่อไป

แหล่งข้อมูล

https://www.springnews.co.th/digital-tech/technology/849124


Smart City Thailand : 02 054 7755
Contact us : thunya.b@gmail.com | thunya@securitysystems.in.th

© smartcitythailand 11 โกสุมรวมใจ ดอนเมือง กรุงเทพมหานคร 10210