MetaGPT สู่วันที่เราสร้างเว็บและแอปง่ายเพียงลัดนิ้ว

Loading

การสร้างเว็บไซต์และแอปพลิเคชันถือเป็นงานที่มีความซับซ้อน ต้องใช้ความรู้ความชำนาญเฉพาะด้าน แต่การเปิดตัวของ ChatGPT ทำให้แนวคิดนี้เริ่มเปลี่ยนไป โดยเฉพาะเมื่อเริ่มมีการพัฒนา MetaGPT ที่ช่วยให้เราสร้าง เว็บไซต์ และแอปพลิเคชัน ได้ในไม่กี่นาที

การมาถึงของ ChatGPT สร้างผลกระทบแก่สายอาชีพมากมายจากความสามารถรอบด้าน แต่เมื่อพูดถึงสายงานที่ได้รับผลกระทบเป็นอันดับต้นๆ หนึ่งในนั้นย่อมมี โปรแกรมเมอร์ อาชีพแห่งยุคใหม่ที่สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ แต่กลับเริ่มถูกตั้งคำถามจากศักยภาพในการเขียนโค้ดของเอไอ

จากการทดลองใช้ของโปรแกรมเมอร์บางท่านพบว่า ChatGPT มีศักยภาพในการเขียนโค้ดและสามารถป้อนคำตอบส่งกลับมาได้อย่างถูกต้อง แม้จะมีข้อติดขัดในบางด้านแต่นับว่าผลลัพธ์ค่อนข้างน่าประทับใจชวนให้คาดหวังในอนาคต แต่ขณะเดียวกันก็อาจสร้างความกังวลให้กับโปรแกรมเมอร์หน้าใหม่อยู่ไม่น้อย

ล่าสุดเริ่มมีการขยับเข้าไปอีกขั้นเมื่อมีการพัฒนาเครื่องมือเอไอใหม่ ช่วยให้สร้าง เว็บไซต์ และ แอปพลิเคชัน ได้อย่างรวดเร็ว

MetaGPT อุปกรณ์ช่วยสร้างเว็บและแอปเพียงกรอกข้อความ

MetaGPT เป็นผลงานของบริษัท WhimsyWorks กับแอปพลิเคชันใหม่ช่วยให้เราสามารถสร้างเว็บไซต์และแอปพลิเคชันได้ง่ายดาย เพียงป้อนคำสั่งจากรูปแบบและเงื่อนไขของระบบที่ต้องการ เมื่อทำการแจ้งข้อความเสร็จสิ้น ระบบจะทำการส่งข้อมูลเพื่อสร้างโค้ดตามข้อมูลที่ได้รับ จากนั้นจึงนำมาประมวลแล้วเขียนโค้ดตามต้องการ

ตัว MetaGPT นี้ไม่ใช่การพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ตัวใหม่ที่สนับสนุนการเขียนโค้ดโดยตรง แต่เป็นการเชื่อมต่อระบบเข้ากับ ChatGPT นำคำสั่งที่ได้รับไปถ่ายทอดเป็นภาษาป้อนเข้าสู่ระบบเอไอ เพื่อให้ปัญญาประดิษฐ์ประมวลผลโค้ดของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันออกมาตามต้องการ จึงมีสถานะใกล้เคียงกับ Add-on ชนิดหนึ่งของ ChatGPT

ทางผู้พัฒนากล่าวว่าการใช้งาน MetaGPT ใกล้เคียงกับการทำงานและสั่งการมนุษย์มาก ไม่แตกต่างจากการพูดคุยกับนักออกแบบให้ได้เว็บไซต์ตามต้องการ แตกต่างกันเพียงคนที่พูดคุยด้วยไม่ใช่มนุษย์จริงๆ แต่เป็นปัญญาประดิษฐ์ที่พร้อมจะทำงานทันทีเมื่อเริ่มมีการป้อนคำสั่ง

จุดเด่นของ MetaGPT คือ แค่เพียงป้อนข้อมูลและข้อกำหนดที่ต้องการ จากนั้นเอไอจะทำการสร้างข้อมูลและโค้ดขึ้นมาอัตโนมัติ โดยผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องควบคุมจัดวางรายละเอียดทุกอย่างด้วยตัวเอง ช่วยประหยัดเวลาและพลังงานให้แก่ผู้ใช้งาน ทำให้การออกแบบพัฒนาเว็บไซต์และแอปพลิเคชันทำได้ง่ายและสะดวกขึ้นมาก

ปัจจุบันตัวระบบยังอยู่ในขั้นเริ่มต้นการพัฒนาแต่มีการนำไปใช้งานสำหรับสร้างแอปพลิเคชันแล้วมากกว่า 11,000 แอป รวมถึงยังถูกนำไปใช้ในการสร้างตารางสถิติ, แดชบอร์ด, ระบบจัดคิว ไปจนแอปหาคู่ โดยสามารถสร้างเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันโดยรองรับการเปลี่ยนแปลงสูงสุด 4 ครั้ง/งาน แต่สามารถแก้ไขได้ไม่จำกัดหากเสียค่าบริการรายเดือน

ขีดจำกัดของ MetaGPT ในปัจจุบัน

ฟังดูดีถ้าเราสามารถออกแบบไปจนสร้างเว็บไซต์และแอปพลิเคชันได้ตามข้อมูลที่กรอกลงไป ในกรณีนี้อาจมีความใกล้เคียงกับเอไอสายศิลปะแบบ Midjourney ที่สามารถรังสรรค์ภาพออกมาจากข้อความที่ป้อนไว้ แต่เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว MetaGPT ยังมีข้อจำกัดสูงกว่ามาก

แตกต่างจากระบบอื่นด้วยความที่ MetaGPT นี้ยังคงอยู่ในระหว่างการเริ่มพัฒนาจึงยังมีข้อผิดพลาดให้พบเห็น จริงอยู่เราอาจสามารถสร้างเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันได้ทันใจ แต่เมื่อมีการทดลองสร้างแล้วนำไปใช้จริงพบว่า ตัวแอปพลิเคชันที่สร้างขึ้นไม่สามารถทำงานซับซ้อนได้ดีนัก ปัจจุบันจะสามารถใช้งานได้ราบรื่นได้แค่กับแอปพลิเคชันระบบ Single Page Application ซึ่งมีความซับซ้อนน้อย อีกทั้งต้องพึ่งพา javascript เป็นหลักจึงอาจมีปัญหาด้านความปลอดภัย

จริงอยู่ตัวระบบอาจรองรับการแก้ไขปรับปรุงเว็บไซต์และแอปพลิเคชันได้หากยอมจ่ายค่าบริการรายเดือน ระบบที่ได้รับการสร้างขึ้นก็ยังไม่รองรับการผลิตแอปพลิเคชันที่มีความซับซ้อนหรือการใช้งานประสิทธิภาพสูงได้ดีนัก เช่น การใช้งานหรือดึงข้อมูลภายนอกเว็บไซต์ การใช้งานจำนวนมากเกินรองรับ หรือสั่งให้ทำกระบวนการซับซ้อนก็อาจเกิดอาการขัดข้องได้

เมื่อผู้ใช้งานพยายามแก้ไขจุดอ่อนเหล่านี้ผ่านทางโค้ดและพยายามแก้ไขมากครั้งเข้า MetaGPT อาจเริ่มปรับเปลี่ยนรูปแบบจากที่ควรเป็น บางครั้งอาจทำการเสริมระบบขึ้นมาเพิ่มเติมที่อาจทำให้เกิดบั๊ก หรืออาจทำให้ระบบที่มีความเสถียรอยู่แล้วเกิดอาการรวนยิ่งขึ้น ถือเป็นข้อจำกัดร้ายแรงในการใช้งานในปัจจุบัน

ส่วนนี้ถือเป็นข้อจำกัดที่สืบเนื่องมาตั้งแต่การทำงานของ ChatGPT เอง การใช้งานปัญญาประดิษฐ์นี้ในสายงานโปรแกรมเมอร์ แม้สามารถเขียนโค้ดที่สามารถรันระบบได้จริง แต่เมื่อเกิดความคลาดเคลื่อนหรือเหตุขัดข้องจนทำให้เกิดการสะดุด บางครั้งเอไอก็จะทำงานเพี้ยนไปจากความจริง เป็นเหตุให้การใช้งานต้องเป็นไปอย่างระมัดระวัง

ในตอนนี้ MetaGPT จึงอาจยังไม่ใช่คำตอบสำหรับการทดแทนสายงานโปรแกรมเมอร์มากนัก

แนวโน้มในอนาคตของ MetaGPT

ถึงตรงนี้อาจมีหลายท่านเกิดข้อสงสัยว่า เมื่อไม่พร้อมใช้งานตอนนี้แต่รออีกสักพักปัญหานี้จะหมดไป สามารถนำมาใช้ในการออกแบบไปจนพัฒนาแอปพลิเคชันได้สะดวก แต่จากความเห็นของผู้เชี่ยวชาญคาดว่าผลกระทบอาจไม่ได้เป็นวงกว้างหรือร้ายแรงเท่าที่คิด โดยเฉพาะจาก MetaGPT เอง

ดังที่บอกไปข้างต้น MetaGPT เป็นเพียงระบบป้อนและถ่ายทอดคำสั่งของเราสู่ ChatGPT เพื่อให้สามารถนำข้อมูลของเราไปทำงานและใช้เป็น Prompt ป้อนสู่ระบบได้ง่าย แต่อันที่จริงมันเป็นเพียงระบบ Add-on หรือส่วนเสริมเพื่อให้สามารถใช้งาน ChatGPT ง่ายขึ้นเท่านั้น จึงไม่ถือเป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นนักหากเราสามารถป้อนข้อมูลให้ ChatGPT ได้เอง

นอกจากนี้ MetaGPT ยังเป็นส่วนเสริมที่มีการใช้งานจากภายนอก ในอนาคตระบบนี้อาจขัดแย้งกับปลั๊กอินหรือระบบสนับสนุนที่ทาง OpenAI พัฒนาและเปิดให้ใช้งานร่วมกับ ChatGPT โดยตรง จนอาจเกิดการขัดข้องในการทำงานหรือผลลัพธ์ที่ร้ายแรงกว่านั้นได้ จึงจำเป็นต้องใช้งานอย่างระมัดระวังเพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น

แน่นอนไม่ได้หมายความว่า MetaGPT จะไร้อนาคตหรือไม่น่าใช้งานเสียทีเดียว หากได้รับการพัฒนาต่อเนื่องและสามารถดึงประสิทธิภาพออกมาได้มากพอ หรือทางบริษัทนำโมเดลจาก OpenAi มาพัฒนาเป็นเอไอสนับสนุนการพัฒนาเว็บไซต์และแอปพลิเคชันโดยตรง ก็อาจเป็นอีกหนึ่งทางเลือกและผู้ช่วยสำคัญในสายงานโปรแกรมเมอร์ได้เช่นกัน

แหล่งข้อมูล

https://www.posttoday.com/post-next/innovation/695164


Smart City Thailand : 02 054 7755
Contact us : thunya.b@gmail.com | thunya@securitysystems.in.th

© smartcitythailand 11 โกสุมรวมใจ ดอนเมือง กรุงเทพมหานคร 10210