อังกฤษ-อเมริกาประกาศจะปรับกำลังพล 1 ใน 4 เป็นเครื่องจักร

Loading

ในขณะที่สังคมไทยตกอยู่ในวังวนการถกเถียงกันเรื่องปัญหาการเกณฑ์ทหารมาช้านาน จนทั้งฝ่ายสนับสนุนและฝ่ายต่อต้านก็เบื่อที่จะเถียงแล้ว แต่พอหันมาทางฝั่งกองทัพอังกฤษก็ได้ประกาศวิสัยทัศน์ว่า กำลังพลของกองทัพประมาณ 1 ใน 4 จะเป็น ‘หุ่นยนต์’ ภายในปี 2030

คำว่า ‘หุ่นยนต์’ ในที่นี้ ต้องเข้าใจว่าไม่ใช่หุ่นสังหารแบบในหนัง ‘คนเหล็ก’ (Terminator) แต่เป็นการใช้เครื่องจักรและหุ่นที่มนุษย์ควบคุมระยะไกล รวมถึง ‘โดรน’ ไม่ว่าจะเป็นแบบบินได้หรือมีล้อ ที่จะใช้ปฏิบัติภารกิจแทนทหารที่เป็นมนุษย์ พูดง่ายๆ คือ กองทัพจะเน้นฝึกคนบังคับหุ่นยนต์แทนฝึกทหารตามจารีตหรือแบบเดิมๆ นั่นเอง

ทำไมกองทัพต้องทำแบบนี้

เหตุผลคือกองทัพมีแนวโน้มจะโดนตัดงบ และกองทัพก็เหมือนเช่นระบบราชการทั่วไป ส่วนประกอบสำคัญที่สุดของงบประมาณคือ ‘เงินเดือนบุคลากร’ ดังนั้น สิ่งที่ตามมาหลังการตัดงบก็คือลดบุคลากร การลดบุคลากรแต่เพื่อให้ทำงานได้เท่าเดิม จึงต้องใช้เครื่องจักรแทนที่ นี่เป็นตรรกะปกติขององค์กรภาคธุรกิจที่ใช้กับกองทัพได้เช่นกัน

ก่อนหน้าที่อังกฤษจะประกาศแบบนี้ในปี 2020 อเมริกาก็เคยประกาศมาตั้งแต่ปี 2014 แล้วว่าในปี 2030 จะลดทหารลง 1 ใน 4 โดยใช้หุ่นยนต์ทดแทน

การประกาศครั้งนั้น คนทั่วไปคงไม่ค่อยรู้ แต่ฝ่ายการทหารทั่วโลกย่อมตื่นตัว เพราะอเมริกากำลังเซ็ตโทนของสงครามยุคอนาคต ที่ในสนามรบอาจจะมีหุ่นยนต์รบกันเป็นหลัก

ถามว่า ‘หุ่นยนต์’ พวกนั้นใครผลิต? คำตอบก็คือ ‘อเมริกาเจ้าเก่า’ นั่นเอง

แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า ทางจีนหรือรัสเซียจะไม่ผลิต เพราะถ้าตามข่าวในช่วงหลังๆ ชาติเหล่านี้ล้วนผลิต ‘หุ่นยนต์สงคราม’ มาอย่างต่อเนื่อง และนั่นก็เป็นผลจากการพยายามจะเปลี่ยนบุคลากรในสนามรบจากคนเป็นหุ่นยนต์ของอเมริกานี่เอง

ในช่วงแรก หลังมีข่าวการใช้ ‘หุ่นยนต์’ เป็นกำลังพลในกองทัพ ได้สร้างข้อถกเถียงใหญ่ว่าเราควรจะใช้ ‘หุ่นยนต์’ ในสนามรบจริงหรือ? เพราะหากเกิดขึ้นจริง ถือว่าเป็นสถานการณ์สยองขวัญมาก ลองคิดดูว่า หากชาติมหาอำนาจเร่งผลิตหุ่นยนต์เพื่อประหัตประหารกัน สถานการณ์ในโลกอนาคตอันหม่นมืดแบบหนังไซไฟคงจะอยู่รำไร

สุดท้าย ตอนที่โลกกำลังตื่นเต้นกับเทคโนโลยีหุ่นยนต์ทั่วไปกัน ทางกองทัพได้เล็งเห็นว่าสิ่งนี้สามารถเอามาใช้ในทางการทหารได้ และในทางปฏิบัติก็ใช้ได้จริงๆ คนจึงเริ่มหวาดกลัวว่า ถ้ามัน ‘ไม่มีการควบคุม’ ก็น่าจะวุ่นวายแน่ๆ เพราะนี่ไม่ใช่แค่ ‘อาวุธสงคราม’ แต่เป็นอาวุธสงครามแบบอัจฉริยะ เคลื่อนที่เองได้ หรือกระทั่ง ‘คิด’ เองได้

หากโลกกำลังจะเดินไปสู่กองทัพหุ่นยนต์จริง สิ่งที่น่าจะ ‘สยอง’ ที่สุดก็คือ จนถึงตอนนี้ ในโลกยังไม่มีสนธิสัญญา ‘ห้าม’ พัฒนา ‘หุ่นยนต์สงคราม’ และก็ไม่มีแนวโน้มจะเกิดขึ้นด้วย

แม้จะมีนักกิจกรรมคอยรณรงค์เรื่องนี้ แต่เสียงนั้นก็แผ่วเบา สาธารณชนไม่ได้ให้ความสนใจ หรือสุดท้ายถ้ามีสนธิสัญญาจริง แต่ถ้าอเมริกา จีน รัสเซีย ซึ่งเป็นชาติมหาอำนาจไม่ยอมให้สัตยาบัน ก็ไม่มีทางจะมีผลบังคับใช้ได้จริงๆ ในทางปฏิบัติ

วันนี้โลกเรากำลังมีแนวโน้มที่จะมี ‘อาวุธสงครามที่มีความคิด’ เต็มไปหมด เพราะนั่นคือ ‘อนาคตของสงคราม’ และก็คงไม่มีอะไรจะหยุดยั้งอาวุธแบบนี้ได้ อย่างน้อยๆ ประวัติศาสตร์ก็บ่งชี้แบบนั้น เพราะถ้าโลกไม่เห็นความโหดร้ายของอาวุธเคมีในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ก็ไม่มีทางจะมีสนธิสัญญาที่จะแบนอาวุธเหล่านี้

และ ‘หุ่นยนต์สงคราม’ ก็เช่นกัน การแบนแทบจะเป็นไปไม่ได้ ถ้าหากมนุษย์ไม่เห็นว่าพวกมันสร้างความเลวร้ายได้แค่ไหน

แหล่งข้อมูล

https://www.facebook.com/brandthink.me/photos/a.1767934240198787/3545349675790559/


Smart City Thailand : 02 054 7755
Contact us : thunya.b@gmail.com | thunya@securitysystems.in.th

© smartcitythailand 11 โกสุมรวมใจ ดอนเมือง กรุงเทพมหานคร 10210