“AI for All” ชุดโครงการปัญญาประดิษฐ์ และวิทยาการหุ่นยนต์ เพื่อสร้างความตระหนักรู้ด้านปัญญาประดิษฐ์สำหรับคนไทยทั่วทั้งประเทศ

Loading

“เทคโนโลยีเอไอ” หรือ ปัญญาประดิษฐ์ เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง และเข้ามามีบทบาทใช้ในชีวิตประจำวันมากขึ้นทั้งด้านการแพทย์ การบอกเส้นทาง การประชาสัมพันธ์นำเสนอข้อมูลตลอดจนวิเคราะห์ด้านการตลาด โดยองค์กรต่างๆ ใช้งานเอไอในรูปแบบแชทบอทมากที่สุด

กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) จึงเปิดตัวโครงการ “AI for All” เพื่อตอบโจทย์ที่จะทำอย่างไรให้คนไทยรู้ว่าไอเอคืออะไร นำไปใช้งานอย่างไรให้เหมาะสม และที่สำคัญนักเทคโนโลยี ผู้ประกอบการสามารถเห็นถึงศักยภาพของเอไอและนำสิ่งต่างๆ เหล่านี้มาพัฒนาให้เกิดขึ้น

‘ช่วย’ มากกว่า ‘แย่ง’ งานมนุษย์

การสำรวจและคาดการณ์ขององค์กรระดับโลก พบว่า ขณะนี้นักเทคโนโลยีของโลกส่วนใหญ่สนใจคือ เอไอ 30-40% และที่น่าสนใจกว่านั้นคือเอไอใกล้ตัวกว่าที่คิด โดยภายใน 0-5 ปี จะมีการใช้อย่างแพร่หลาย และเมื่อถามถึงฝั่งผู้ประกอบการว่าเอไอจะส่งผลกระทบอย่างไรกับการจ้างงาน หรือเศรษฐกิจ พบว่า 20-40% ของผลผลิตมวลรวมของโลกจะเกี่ยวข้องกับเอไอ ดังนั้นจึงถือได้ว่าเอไอเป็นเรื่องใหญ่ทั้งด้านเทคโนโลยีและเศรษฐกิจ อีกทั้งจะมีผลต่องานในอนาคต

ขณะเดียวกันได้มีการศึกษาคิดตามคนไทยทั้งประเทศ พบว่าคนส่วนใหญ่ไม่รู้จักเอไอ แต่คนที่รู้จักและคุ้นชินมักจะรับรู้ได้เพียงฝ่ายเดียวว่าเอไอคืออะไร ทำให้เกิดภาพที่ไม่เหมือนจึงส่งผลให้การขับเคลื่อนค่อนข้างยาก แต่ความจริงแล้วเอไอเป็นแนวโน้ม หรือ ทิศทางที่สำคัญในแง่ของเทคโนโลยีและการใช้งานที่จะเข้ามา “ช่วย” มากกว่าการเข้ามา “แทนที่”

“เนื่องด้วยภาพจำเกี่ยวกับเอไอจากทั้งหมดทั้งมวลที่ถูกสื่อออกมาก่อนหน้านี้ อาทิ หนังไซไฟ ไม่สู้ดีนัก อย่างการที่หุ่นยนต์จะมาครองโลก หรือ แทนที่การทำงานของมนุษย์ แต่ในความเป็นจริงแล้วนั้นกลับตรงกันข้าม อย่างเช่นสถานการณ์ที่ผ่านมาของการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่การวินิจฉัยโควิดจำนวนมากใช้วิธิเจาะเลือด หรือ ตรวจหาสารคัดหลั่ง” ศ.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษาฯ กล่าว

แต่หนึ่งในการตรวจที่ถือได้ว่ามีประโยชน์มากคือ เอ็กซเรย์ซีทีสแกนปอด ที่ต้องอาศัยนักรังสีแพทย์ที่มีประสบการณ์สูงมากเพื่อวินิจฉัยที่เกิดขึ้น ซึ่งได้มีการพัฒนากลไกของภาพถ่ายซีทีสแกนปอดของผู้ป่วยโควิดหลายรายเข้าไปให้เอไอเรียนรู้ว่า หากเป็นโควิดปอดจะเป็นหน้าตาแบบใด และวิเคราะห์พบว่ามีความแม่นยำสูงถึง 90% และสามารถช่วยในการให้การรักษาผู้ป่วยได้เป็นอย่างมาก

แม้กระทั่งการนำปัญหาประดิษฐ์มาวิเคราะห์ข้อมูลระบบการแพทย์ฉุกเฉิน เพื่อช่วยแพทย์ในการตัดสินใจทำการรักษา หรืออีกหลากหลายอุตสาหกรรม อย่างระบบประกันภัย การป้องกันข้อมูล ถือได้ว่าเอไอมีความสำคัญทั้งในเชิงเทคโนโลยี และการใช้งานจะช่วยในการพัฒนาประเทศไทยและโลก ดังนั้นเราต้องเตรียมความพร้อม และสร้างการรับรู้ทั้งในแง่เทคโนโลยี กฎหมาย กฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง จึงเป็นที่มาของ AI for All เพื่อให้คนไทยมีความพร้อม และเข้าใจเพื่อที่จะขับเคลื่อนเรื่องนี้ต่อไป เพื่อเตรียมพร้อมไทยรับ AI

AI For ALL ประกอบด้วย 5 โครงการหลัก ได้แก่

1.AI ไทยสามารถ เป็นโครงการที่สร้างกระแสความสนใจ ความรู้ และความเข้าใจเรื่องปัญญาประดิษฐ์เบื้องต้น สำหรับประชาชนทั่วไปที่ไม่รู้จักหรือยังไม่เข้าใจ ดำเนินการโดย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.)

2.AI@School เป็นโครงการพัฒนาศักยภาพครู และเยาวชนในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ให้มีความรู้และความเข้าใจพื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์ข้อมูลและเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ ดำเนินการโดย ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ

3.โครงการ Super AI Engineer เป็นโครงการพัฒนานวัตกร วิศวกร นักวิจัย วิสาหกิจเริ่มต้น ด้านปัญญาประดิษฐ์ เพื่อป้อนเข้าสู่ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม ดำเนินการโดย สมาคมปัญญาประดิษฐ์ประเทศไทย และสถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

4.โครงการ AI/ROBOTICS FOR ALL เป็นโครงการเพื่อพัฒนานวัตกร นักวิจัย วิศวกร วิสาหกิจเริ่มต้น ให้เกิดความตระหนัก และมีความรู้ความสามารถด้านหุ่นยนต์ และปัญญาประดิษฐ์ ดำเนินการโดย สถาบันวิทยาการหุ่นยนต์ภาคสนาม มจธ.

5.โครงการ SMART Agricultural Robot Contest 2020 เป็นโครงการแข่งขัน เพื่อส่งเสริมให้นิสิตนักศึกษาพัฒนาสิ่งประดิษฐ์ ที่ใช้เทคโนโลยีหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์เพื่อแก้ปัญหาจากภาคการเกษตร และต่อยอดผลงานเข้าสู่เชิงพาณิชย์ต่อไป ดำเนินการโดย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และสมาคมวิชาการหุ่นยนต์แห่งประเทศไทย

ปัจจุบันทุกภาคส่วนให้ความสำคัญกับการนำเอาปัญญาประดิษฐ์ หรือ เอไอ มาใช้ เพื่อเสริมศักยภาพในการทำงานภายในองค์กร จนเรียกได้ว่าเอไอได้กลายมาเป็นผู้ช่วยคนสำคัญ แต่ก็ต้องยอมรับว่า เมื่อเอไอ เริ่มเข้ามามีบทบาทต่อการใช้ชีวิตในแง่ของปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และหุ่นยนต์ ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่าจะมีผลกระทบต่อการจ้างงานในอนาคต 

ดังนั้น ประเทศไทยจึงต้องเตรียมพร้อมทุกด้าน โดยในส่วนของภาครัฐเองได้มีการบูรณาการร่วมกันกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ในการสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเอไอ แก่ประชาชน สังคมมากขึ้น ซึ่งจะทำให้เกิดความร่วมมือทุกภาคส่วน ผ่านโครงการ AI For All ที่มุ่งส่งเสริมให้เกิดการนำเอไอมาประยุกต์ใช้ในสาขาวิชาชีพต่างๆ รวมไปถึงชุมชนและสังคม และเป็นการจุดประกายให้ทุกภาคส่วนให้เห็นความสำคัญของเอไอและส่งเสริมในเรื่องนี้อย่างเป็นระบบ เพื่อเตรียมกำลังคนให้พร้อมรับกับยุคของเอไออย่างเต็มรูปแบบในอนาคต

 
 

ขอบคุณแหล่งที่มา
www.aiforall.or.th

www.bangkokbiznews.com


Smart City Thailand : 02 054 7755
Contact us : thunya.b@gmail.com | thunya@securitysystems.in.th

© smartcitythailand 11 โกสุมรวมใจ ดอนเมือง กรุงเทพมหานคร 10210