ป้องกัน! อาชญากรจากโลกออนไลน์ด้วย AI Cybersecurity

Loading

  • เทคโนโลยี Machine Learning และ การเรียนรู้เชิงลึก ในระบบปัญญาประดิษฐ์สามารถทำให้ตัวมันเองเรียนรู้ซ้ำๆ ผ่านการโจมตี
  • พัฒนาระบบตรวจจับภัยคุกคามขั้นสูง ระบบเหล่านี้สามารถจดจำและวิเคราะห์รูปแบบการโจมตีใหม่ๆ ที่ซับซ้อนได้
  • ระบบ AI จะมีประสิทธิภาพสูงสุด จำเป็นที่จะต้องมีการลงทุนในส่วนของการสอนและฝึกอบรมบุคลากร ให้มีความเชี่ยวชาญมากพอ

ภัยจากโลกออนไลน์ในตอนนี้ เรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่ทุกคนน่าจะเคยพบเจอกันมาเป็นอย่างดี และไม่ว่าจะองค์หรือตัวบุคคลก็ต้องทำเรียนรู้การป้องกัน การดำเนินงานของตัวเองจากภัยคุกคามทางไซเบอร์

การเข้ามาของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ในช่วงที่ผ่านมาให้เข้ากับเทคโนโลยีอื่นๆ นั้นได้กลายเป็นเครื่องอันทรงพลังที่พลิกโฉมประวัติศาสตร์โดยสิ้นเชิง รวมไปถึงในวงการความปลอดภัยทางไซเบอร์ด้วย และ AI ยกระดับประสิทธิภาพและนวัตกรรมที่ไม่เคยมีมาก่อนมาสู่การป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์

พัฒนาการของ AI ในโลกของ Cybersecurity

เทคโนโลยี Machine Learning และ การเรียนรู้เชิงลึก (Deep Learning) ในระบบปัญญาประดิษฐ์สามารถทำให้ตัวมันเองเรียนรู้ซ้ำๆ ผ่านข้อมูลจำนวนมหาศาล ทำงานได้รวดเร็ว ซึ่งส่งผลให้เทคโนโลยีด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์มีพัฒนาการด้านความเร็ว ความแม่นยำของการตรวจจับภัยคุกคาม การตอบสนอง และการบรรเทาผลกระทบเพิ่มขึ้นมากอย่างก้าวกระโดด

อีกทั้งอัลกอริธึมการเรียนรู้ของเครื่องสามารถวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมหาศาล ทำให้สามารถระบุรูปแบบและความผิดปกติที่นักวิเคราะห์ที่เป็นมนุษย์อาจมองข้ามไป ช่วยให้สามารถดำเนินมาตรการเชิงรุกได้ และอาจทำนายความเสี่ยงเพื่อป้องกันเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นล่วงหน้าได้อีกด้วย

AI Cybersecurity ตรวจจับภัยคุกคามขั้นสูง

AI ในด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์คือการพัฒนาระบบตรวจจับภัยคุกคามขั้นสูง ระบบเหล่านี้สามารถจดจำและวิเคราะห์รูปแบบการโจมตีใหม่ๆ ที่ซับซ้อนได้ ซึ่งมักจะเกิดขึ้นแบบเรียลไทม์ การป้องกันเเบบดั้งเดิมไม่อาจทำได้ นอกจากนี้ เครื่องมือที่ขับเคลื่อนด้วย AI ยังทำงานรักษาความปลอดภัยในลักษณะ Routine ได้โดยอัตโนมัติ ช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญที่เป็นมนุษย์สามารถมุ่งเน้นไปที่แง่มุมที่ซับซ้อนและเป็นกลยุทธ์มากขึ้นของการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์

นอกจากนี้ AI ยังมีศักยภาพที่จะเป็นเครื่องมือเปลี่ยนโฉมในการทดสอบการบุกรุก ซึ่งเป็นการทดสอบระบบป้องกันของซอฟต์แวร์และเครือข่ายเพื่อระบุจุดอ่อน ด้วยการพัฒนาเครื่องมือ AI เพื่อกำหนดเป้าหมายเทคโนโลยีของตนเอง องค์กรต่างๆ จะสามารถระบุจุดอ่อนของตนเองได้ดียิ่งขึ้น ก่อนที่แฮกเกอร์จะใช้ประโยชน์จากจุดอ่อนของเราได้

AI Cybersecurity

การมีปัญญาประดิษฐ์เหล่านี้จะมอบข้อได้เปรียบที่สำคัญแก่ องค์กรด้าน AI Cybersecurity ในการป้องกันการโจมตีในอนาคต การหยุดยั้งการรั่วไหลของข้อมูลก่อนที่จะเกิดขึ้น ไม่เพียงแต่ช่วยปกป้องข้อมูลของบุคคลและบริษัทเท่านั้น แต่ยังช่วยลดต้นทุนด้าน IT สำหรับธุรกิจอีกด้วย

ถ้า AI Cybersecurity ไปอยู่ในมือของอาชญากร?
  • การโจมตีแบบ Brute-force Al สามารถเรียนรู้รูปแบบการตั้งรหัสผ่าน และใช้พลังประมวลผลมหาศาลเพื่อถอดรหัสผ่านของผู้ใช้
  • การโจมตีแบบ Social Engineering Al สามารถสร้างบอทสนทนา (Chatbot) ที่มีความซับซ้อนหลอกล่อผู้ใช้ให้เปิดเผยข้อมูลส่วนตัว หรือดำเนินการที่เป็นอันตราย
  • การโจมตีแบบ Phishing AI สามารถสร้างอีเมลปลอมที่เหมือนจริงหลอกล่อ ผู้ใช้ให้คลิกลิงก์ที่ติดมัลแวร์ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว
  • การโจมตีแบบ Zero-day AI สามารถวิเคราะห์ช่องโหว่ในซอฟต์แวร์ และสร้างมัลแวร์ใหม่เพื่อโจมตีระบบก่อนที่ผู้ผลิตจะทราบและแก้ไข

แต่ในท้ายที่สุดปัญญาประดิษฐ์และ Cybersecurity จำเป็นที่จะต้องมีความชำนาญในด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อการใช้งานเครื่องมือที่ขับเคลื่อนด้วยระบบ AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งจำเป็นที่จะต้องมีการลงทุนในส่วนของการสอนและฝึกอบรมบุคลากร เพื่อสร้างความมั่นใจว่าองค์กรจะมีบุคลากรความเชี่ยวชาญมากพอที่จะบริหารจัดการการดำเนินงานรักษาความปลอดภัยในโลกไซเบอร์ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยที่ขับเคลื่อนด้วย AI ทั้งบัญชีของตัวเองในกรณีที่เป็นผู้ดูแล และ ตัวผู้บริหารเองอีกด้วย

แหล่งข้อมูล

https://www.springnews.co.th/digital-tech/technology/849843


Smart City Thailand : 02 054 7755
Contact us : thunya.b@gmail.com | thunya@securitysystems.in.th

© smartcitythailand 11 โกสุมรวมใจ ดอนเมือง กรุงเทพมหานคร 10210